เปิดคำสั่ง ปปง.อายัดบ้านที่ดิน 1 แปลง 1 ล้าน จ.อุดรฯ อดีตตำรวจ ตชด.กับพวก ฟอกเงิน คดีลักลอบขโมยปืนของราชการไปขาย 885 กระบอก ช่วงปี 2551 - 2554 ถูกจับได้ปี 2560 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จําคุกคนละ 6 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2563 สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่ง คําสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย. 50 /2563 เรื่อง อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว รายดาบตํารวจอุเทน โสภิณ กับพวก เป็นผู้มีพฤติการณ์แห่งการกระทํา ความผิดเกี่ยวกับตําแหน่งหน้าที่ราชการ ค้าอาวุธที่ใช้ในราชการสงคราม และความผิดฐานฟอกเงิน ในข้อกล่าวหาร่วมกันลักลอบนอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดเครื่องประกอบอาวุธปืนของทางราชการไปขาย ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคําพิพากษาใน จําเลยที่ 1 ถึงที่ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 (1) มาตรา 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ฐานร่วมกันฟอกเงิน จําคุกคนละ 6 ปี และศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีคําพิพากษา พิพากษายืน และคดีถึงที่สุดแล้ว
คำสั่งอายัด ของ ปปง. ระบุว่า
ด้วยสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจาก สถานีตํารวจภูธรด่านซ้าย จังหวัดเลย ตามหนังสือที่ ตช 0019.(11)8/371 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 รายงานการกระทําความผิดมูลฐานกรณีดาบตํารวจอุเทน โสภิณ กับพวก เป็นผู้มีพฤติการณ์แห่งการกระทํา ความผิดเกี่ยวกับตําแหน่งหน้าที่ราชการ ค้าอาวุธที่ใช้ในราชการสงคราม และความผิดฐานฟอกเงิน ต่อมาได้รับ รายงานจากสถานีตํารวจภูธรเมืองหนองคาย ตามหนังสือที่ ตช 0019 (นค).(12)5/1244 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 และหนังสือที่ ตช 0019.(นค).(12)5/1479 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 รายงาน การกระทําความผิดมูลฐาน กรณีดาบตํารวจอุเทน โสภิณ และดาบตํารวจสุชาติ ใจตาง กับพวก เป็นผู้มีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดเกี่ยวกับตําแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดเกี่ยวกับการค้าอาวุธ ที่ใช้ในราชการสงคราม และได้รับรายงานจากสถานีตํารวจภูธรเมืองอุดรธานี ตามหนังสือที่ ตช 0019(อด)(14)5.03 (ส31/1287 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 และหนังสือที่ ตช 0019(อด).(14)5/03/2 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 รายงานการกระทําความผิดมูลฐานกรณีดาบตํารวจอุเทน โสภิณ และ ดาบตํารวจกิตติชัย จุลเหลา กับพวก ถูกกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ร่วมกัน เบียดบังเอาทรัพย์นั้นไปเป็นของตนหรือผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบและความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยุทธภัณฑ์เฉพาะที่เป็นการค้า ยุทธภัณฑ์เพื่อนําไปใช้ในการก่อการร้าย การรบ หรือการสงคราม กล่าวคือ
สืบเนื่องจากในช่วงระหว่าง ปี พ.ศ. 2552-2557 ดาบตํารวจอุเทน โสภิณ และดาบตํารวจกิตติชัย จุลเหลา เป็นเจ้าพนักงานสังกัด กองกํากับการตํารวจตระเวนชายแดนที่ 24 มีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์สินซึ่งเป็นอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด เครื่องประกอบอาวุธปืนของทางราชการ ได้ร่วมกันเบียดบังเอาทรัพย์ดังกล่าวจํานวนหลายรายการ ประกอบกับดาบตํารวจอุเทน หรือนายจิรสิณ โสภิณ เคยให้การว่าตนลักลอบนําปืนของกองกํากับการตํารวจ ตระเวนชายแดนที่ 24 ออกไปจําหน่าย โดยทําต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 - 2554 ต่อมาศาลจังหวัด อุดรธานี ได้ออกหมายจับที่ 65 - 71 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ให้จับกุมดาบตํารวจอุเทน โสภิณ นางสาวสุธาสินี แสนภวังค์ หรือโสภิณ ดาบตํารวจสุชาติ ใจตาง นางสาวมนัดดา โพธิ์สี หรือใจตาง นายศรีจันทร์ ใจตาง นายบุญมา วงศ์สายตา และนายชวน กันวงศ์ รวม 7 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน” สถานีตํารวจภูธรเมืองอุดรธานี ได้รับคําร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 664/2560 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคําพิพากษาในคดีหมายเลขดําที่ อท.22/2560 หมายเลขแดงที่ อท.31/2556 พิพากษาว่าจําเลยที่ 1 ถึงที่ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 (1) มาตรา 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ฐานร่วมกันฟอกเงินจําคุกคนละ 6 ปี ยกฟ้องจําเลยที่ 5 ถึงที่ 7 กับคําขออื่นให้ยก ต่อมาจําเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้มีคําพิพากษาในคดีหมายเลขดําที่ อท.372/2561 หมายเลขแดงที่ อท.1138/2562 วินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของจําเลยที่ 1 ถึงที่ 4 นั้น ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน และคดีถึงที่สุดแล้ว อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (5) และ (21) และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ดาบตํารวจอุเทน โสภิณ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดดังกล่าว
คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่นคราว 1 รายการได้แก่ ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 156894 เลขที่ดิน 625 หน้าสำรวจ 18446 ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี เนื้อที่ 0-0-86 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยมี ส.ต.อ.สุชาติ ใจตาง และ นางมนัดดา ใจตาง มารดา เป็นผู้ครอบครอง ราคาประเมินไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง 1,075,000 บาท ซึ่งมีภาระผูกพันกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ตามสัญญาจำนองวันที่ 22 ส.ค.2562
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวเมื่อ วันที่ 15 ก.พ.2560 ว่า พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร คุมตัวนายจิรสิน หรือ ด.ต.อุเทน โสภิณ อายุ 47 ปี, นางสุธาสินี โสภิณ อายุ 46 ปี ภรรยาของ ด.ต.อุเทน, ด.ต.สุชาติ ใจตาง อายุ 40 ปี, น.ส.มนัดดา ใจตาง หรือโพธิ์สี อายุ 34 ปี ภรรยาของ ด.ต.สุชาติ กับพวก รวม 7 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 65-71/2560 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ตามลำดับ ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มามอบให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. ดำเนินคดี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารสามารถจับกุมผู้ต้องหา เป็นทั้งอดีตตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และตำรวจภูธรในพื้นที่ จ.อุดรธานี ที่มีหน้าที่ดูแลรักษาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของคลังสรรพาวุธ กก.ตชด.ที่ 24 แต่กลับร่วมกันยักยอกอาวุธปืนดังกล่าวออกไปจำนวน 885 กระบอก จากค่าย ตชด.ใน จ.อุดรธานี จ.หนองคาย และ จ.เลย เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2552-2558 ต่อเนื่องกัน และภายหลังได้มีการแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี, สภ.เมืองหนองคาย และ สภ.ด่านซ้าย จ.เลย ต่อมาคดีได้ถูกส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) 4 คดี โดยพนักงานสอบสวนท้องที่รับคดีไว้เอง 1 คดี นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 38 ล้านบาท
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage