'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมแซง 5.5 ล้าน -'WHO' ประกาศยกเลิกทดสอบยาไฮดรอกซีคลอโรควิน หวั่นผลข้างเคียงอันตราย สหรัฐฯ ตัวเลขเสียชีวิตใกล้ถึง 1 แสนศพ คนแห่ฉลองวันหยุดไม่กลัวโควิด - รัสเซีย คลิปเสียงผู้ว่าฯ หลุด สั่งลูกน้องเปลี่ยนแปลงตัวเลข-'ญี่ปุ่น' เจอปัญหาวัคซีนวัณโรคขาดแคลน - เม็กซิโก ใบมรณะบัตรสูงกว่าปีที่แล้ว 8 พัน แต่แจ้งตายโควิด 52 ศพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 26 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 5,584,211 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 90,128 ราย มีผู้เสียชีวิต 347,613 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3,096 ศพ
โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,706,226 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19,790ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 99,805 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 505 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในโลก
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 367,625 ราย และมีผู้เสียชีวิต 29,138 ศพ
ขณะที่ องค์กรอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกประกาศเป็นทางการว่า WHO ได้หยุดการทดลองใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินเพื่อใช้รักษาโรคโควิด-19 แล้ว เนื่องจากเกรงกลัวผลข้างเคียงที่อันตรายจากยาดังกล่าว
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้ออกมาแนะนำให้ใช้ยานี้เพื่อใช้ในการรักษาโรคโควิด ระบุว่าตนเอง ได้เลิกรับประทานยาตัวนี้ไปแล้ว
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในสหรัฐฯนั้น มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาเป็นวันหยุด Memorial Day หรือวันยกย่องทหารและประชาชนผู้เสียชีวิตในสงครามของสหรัฐฯ มีประชาชนชาวอเมริกันออกมาเฉลิมฉลองทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้สนใจในเรื่องมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมแต่อย่างใด
บรรยากาศการเฉลิมฉลองที่ทะเลสาบโอซาค รัฐมิสซูรี่ ประเทศสหรัฐฯ (อ้างอิงวิดีโอจากช่อง CBS NEWS)
สำหรับสถานการณ์รอบโลกนั้น ที่ประเทศบราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 376,669 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,051 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 23,522 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 806 ศพ ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และบราซิลยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่เป็นอันดับหนึ่งของโลกแซงหน้าสหรัฐฯเป็นวันที่ 2
ที่รัสเซีย มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 353,427 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,946 ราย มีผู้เสียชีวิต 3,633 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 92 ศพ ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับหนึ่งในยุโรป
ขณะที่มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทปบันทึกเสียงการสนทนาไฟล์หนึ่ง ถูกนำมาเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ ZNak.com คาดว่าเจ้าของเสียงผู้สนทนาจะเป็นนาย Igor Artamonov ผู้ว่าการการเมืองลีเปตสค์ (Lipetsk) ที่กำลังสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเปลี่ยนแปลงตัวเลขอันเกี่ยวข้องสภานการณ์ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิดในเมืองลีเปตสค์ เพื่อไม่ต้องการให้เมืองแห่งนี้ถูกมองในแง่ร้าย
โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ในเมืองลีเปตสค์ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อโควิด อยู่ที่ 1,696 ราย มียอดผู้เสียชีวิต เป็นจำนวน 5 ศพ
นาย Igor Artamonov ผู้ว่าการการเมืองลีเปตสค์ (อ้างอิงรูปภาพจาก:https://handofmoscow.com/2020/05/07/authorities-explained-the-words-of-the-russian-governor-to-disperse-people/)
ที่อังกฤษ มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 261,184 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,625 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 36,914 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 121 ราย ทำให้อังกฤษเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอันดับสองของโลก และเป็นอันดับหนึ่งของยุโรป
ส่วนสถานการณ์ในเอเชียนั้น สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 31,960 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 344 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 23 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่ สิงคโปร์จึงยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 344 ราย ยังคงเป็นแรงงานต่างชาติ 338 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 344 รายนั้นถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่สิงคโปร์ได้เริ่มแผนการตรวจหาโรคโควิด
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 22,750 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 479 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,391 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 19 ศพ ทำให้อินโดนีเซียมี ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในอาเซียน
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 14,319 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 2,584 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 873 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5 ศพ
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 7,417 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 172 ราย มีผู้เสียชีวิต 115 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
ที่บังกลาเทศ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 35,585 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,975 ราย มีผู้เสียชีวิต 501 ศพ มีผู้ติดเสียชีวิตรายใหม่ 21 ศพ
สำหรับสถานการณ์ในประเทศจีน มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 82,985 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4,634 ราย โดยรัฐบาลจีนได้ชี้แจงว่าผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมดของจีนนั้นเป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ แบ่งออกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในเขตปกครองตนเองมองโกลเลีย จำนวน 10 ราย และทางตอนใต้ของมณฑลเสฉวนจำนวน 1 ราย
ที่อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 144,941 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,405 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,172 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 148 ศพ
ทั้งนี้มีรายงานว่า ในวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่ทางการอินเดียได้อนุญาตให้เที่ยวบินในประเทศเปิดให้บริการ จึงทำให้มีชาวอินเดียมาต่อคิวซื้อตั๋วเครื่องบินเป็นจำนวนมาก จนเป็นเหตุให้ต้องมีการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากกว่า 100 เที่ยวบิน เนื่องจากเกิดความวุ่นวายที่สนามบิน
ที่อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 137,724 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,023 ราย มีผู้เสียชีวิต 7,414 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 34 ศพ
ทั้งนี้มีรายงานว่าที่อิหร่านได้มีการเปิดทำการของศาสนสถานของศาสนาอิสลาม นิกายชีอะห์หลังจากที่ต้องปิดตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. เนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด
ส่วนที่เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 11,206ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 267 ศพ มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ศพ โดยผู้ติดเชื้อใหม่อย่างน้อย 13 รายนั้นเป็นผู้ติดเชื้อจากกรุงโซล
ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้นั้นได้ออกมาตรการบังคับให้ประชาชนี่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะได้แก่ รถไฟ รถประจำทาง และรถแท็กซี่ ต้องใส่หน้ากากทุกกรณี
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 16,473 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 21 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 850 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 11 ศพ
โดยนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ออกประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศอย่างเป็นทางการเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิดในประเทศนั้นสามารถควบคุมได้แล้ว และยังเรียกร้องให้ชาวญี่ปุ่นปรับตัวกับวิถีชีวิตใหม่ โดยลดการสัมผัสกับผู้อื่นลงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ การสวมใส่หน้ากาก การเว้นระยะห่างทางสังคม และการทำงานจากที่บ้านแทนการไปที่ทำงาน
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีรายงานข่าวจากสถานพยาบาลที่เมืองนาโกย่าพบว่ากำลังขาดแคลนของวัคซีนป้องกันโรควัณโรค เนื่องจากวัคซีนดังกล่าวเป็นที่ต้องการมากหลังจากที่มีรายงานว่าสามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิดได้ ส่งผลทำให้เด็กแรกเกิดไม่ได้รับวัคซีนซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรคตามมา
สำหรับสถานการณ์ในยุโรปนั้น ที่สเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 282,480 ราย มีผู้เสียชีวิต 26,837ศพ ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อหรือเสียชีวิตรายใหม่
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสะสมของสเปนนั้น เป็นตัวเลขที่ลดลงจากวันที่ 24 พ.ค. ที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 282,480 ราย และมีผู้เสียชีวิต 26,837 ศพ
ขณะที่เว็บไซต์ Worldmeters แจ้งว่า เกิดความคาดเคลื่อนในการรายงานตัวเลข จึงต้องมีการปรับวิธีการรายงานตัวเลขของสเปนใหม่
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 230,158 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 300 ราย มีผู้เสียชีวิต 32,877 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 92 ศพ
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 182,942 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 358 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 28,432 ศพ มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่ 65 ศพ
ที่เยอรมนี มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 180,789 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 461 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 8,428 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 57 ศพ
ที่เม็กซิโก มีรายงานข่าวอ้างอิงจากนิตยสาร Nexos ของเม็กซิโกระบุว่า ในช่วงปีนี้ที่กรุงเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก มีการออกใบมรณบัตรสูงกว่าปี 2562 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีเป็นจำนวนทั้งสิ้น 8,072 ใบ ซึ่งหมายความว่าในปีนี้นั้นมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นถึง 7,400 ศพ
แต่ตัวเลขรายงานผู้เสียชีวิตทางการของกรุงเม็กซิโกซิตี้กลับระบุผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด ไว้แค่ 52 ศพเท่านั้น
โดยสถานการณ์ทั่วไปขอเม็กซิโก ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อโควิดสะสม 68,620 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,764 ราย เป็นผู้เสียชีวิต 7,394 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 215 ศพ
เรียบเรียงจาก:,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.straitstimes.com/singapore,https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.themoscowtimes.com/,http://www.arirang.com/News/News_Index.asp,https://www.usatoday.com/news/,https://www.dw.com/en/top-stories/s-9097
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage