'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมแซง 5.5 ล้าน -ทำเนียบขาวสหรัฐฯ สั่งห้ามคนบราซิล เข้าประเทศหลังยอดตายรายวันพุ่ง 703 ศพ แซงหน้า- 'เกาหลีใต้' สรุปยอดคนป่วยสะสมเอี่ยวไนท์คลับอิแทวอนเบ็ดเสร็จ 225 ราย-'ญี่ปุ่น'ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินวันแรก จ่ายเงินเยียวยาทีมแพทย์เกือบ 6 หมื่น โอซาก้าพบห้องเตียงรวม รพ.แหล่งแพร่ระบาดโควิดก่อนแสดงอาการ อัตราส่วน 1:4
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 25 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 5,494,455 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 96,505 ราย มีผู้เสียชีวิต 346,434 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2,826 ศพ
โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,686,436 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19,608 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 99,300 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 617 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในโลก
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 366,346 ราย และมีผู้เสียชีวิต 29,046 ศพ
ที่กรุงวอชิงตันดีซี ทำเนียบขาวได้ออกมาตรการเพิ่มเติมให้ผู้ที่เคยเดินทางไปประเทศบราซิลเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐฯทุกกรณี
ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวถึงการรับประทานยาไฮโดรคลอโรควินซึ่งเป็นยาต้านโรคโควิด-19 ที่ยังไม่ได้รับการรับรองว่า เขาเสร็จสิ้นขั้นตอนการกินยาตัวนี้แล้ว
อ้างอิงรูปภาพจาก USA Today
อนึ่งก่อนหน้านี้ มีรายงานจากนิตยสารการแพทย์ Lancet ที่ระบุถึงอัตราการเสียชีวิตจากการบริโภคยาชนิดนี้ ในหมู่ผู้ป่วยโรคโควิด ว่ามีถึง 1 ใน 6 และยังพบว่ามีอาการการเต้นผิดจังหวะของหัวใจเป็นผลข้างเคียงของการรับประทานยานี้
สำหรับสถานการณ์รอบโลกนั้น ที่ประเทศบราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 363,618 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,220 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 22,716 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 703 ศพ ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และบราซิลยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นอันดับหนึ่งของโลกแซงหน้าสหรัฐฯ
ที่รัสเซีย มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 344,481 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,599 ราย มีผู้เสียชีวิต 3,541 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 153 ศพ ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับหนึ่งในยุโรป
ที่อังกฤษ มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 259,559 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,405 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 36,793 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 118 ราย ทำให้อังกฤษเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับสองของโลก และเป็นอันดับหนึ่งของยุโรป
ส่วนสถานการณ์ในเอเชียนั้น สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 31,616 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 548ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 23 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่ สิงคโปร์จึงยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 548 ราย ยังคงเป็นแรงงานต่างชาติ 544 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 22,271 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 526 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,372 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 25 ศพ ทำให้อินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในอาเซียน
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 14,035 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 258 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 868 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5 ศพ
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 7,245 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 60 ราย มีผู้เสียชีวิต 115 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
ที่บังกลาเทศ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 33,610 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,532 ราย มีผู้เสียชีวิต 480 ศพ มีผู้ติดเสียชีวิตรายใหม่ 28 ศพ
สำหรับสถานการณ์ในประเทศจีน มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 82,974 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4,634 ราย
ที่อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 138,536 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,113 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,024 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 156 ศพ
ที่อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 135,701 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,180 รายมีผู้เสียชีวิต 7,417 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 58 ศพ
ส่วนที่เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม11,190 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 266 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
ทั้งนี้เกาหลีใต้ได้มีการสรุปตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมที่มาจากไนท์คลับที่ย่านอิแทวอนเพิ่มเติมว่ามีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 225 รายแล้วที่เกี่ยวข้องกับไนท์คลับ แบ่งออกเป็น 96 ราย ที่อยู่ที่ไนท์คลับ และอีก 129 รายเป็นครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานของผู้ที่อยู่ในไนท์คลับ
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 16,451 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 42 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 837 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6 ศพ และวันนี้เป็นวันแรกที่ญี่ปุ่นได้สั่งยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการแจกเงินเยียวยาอีกจำนวนทั้งสิ้น 200,000 เยน (59,210 บาท)ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น
ขณะที่ความเคลื่อนไหวที่เมืองโอซาก้า มีรายงานว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมที่เมืองนี้ซึ่งมีทั้งสิ้น 78 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มาจากสถานพยาบาลจำนวน 5 แห่ง จำนวนทั้งสิ้น 35 ศพ โดยพบตัวอย่างว่าผู้ป่วย 1 ราย สามารถแพร่เชื้อให้กับคนอื่นได้อีกถึง 4 คนในวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา และทำให้มีผู้เสียชีวิตจากอาการป่วยที่ระบบทางเดินหายใจไปถึง 11 ศพ
โดยมีรายงานว่าผู้ป่วยหลายคนนั้นสามารถแพร่เชื้อได้นับตั้งแต่ยังไม่มีอาการ
ขณะที่ นายคาซูโนริ โทโมโน ศาสตราจารย์วิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยโอซาก้า ได้ออกมรระบุว่า อัตราการแพร่เชื้อที่เกิดขึ้นนั้นมาจากในช่วงเวลาที่ผู้ป่วยโรคโควิด ก่อนที่จะได้รับการตรวจพบเชื้อ เข้าไปอยู่ในห้องพักคนไข้เตียงรวมร่วมกับคนไข้อื่นๆ ผนวกกับการที่มีผู้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมากทำให้เกิดการแพร่เชื้อโควิดได้ง่ายทั้งในหมู่บุคลากรทางการแพทย์และในหมู่คนไข้ ซึ่งคนไข้ 1 คนนั้นกว่าจะรู้ว่าป่วยและมีอาการจากโรคโควิด ก็ต้องใช้เวลาผ่านไปแล้วถึง 5 วัน
นายคาซูโนริ ยังระบุด้วยว่า ดังนั้น จึงต้องมีการป้องกันการติดเชื้อจากโรงพยาบาลอย่างจริงจัง โดยยึดหลักการปฏิบัติที่สำคัญก็คือการทำตามมาตรการพื้นฐานเช่นการใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือ และการทำความสะอาดสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยอย่างมีระบบ
นายคาซูโนริ โทโมโน ศาสตราจารย์วิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยโอซาก้า (อ้างอิงรูปภาพจาก:http://www.med.osaka-u.ac.jp/eng/introduction/research/special/infection)
สำหรับสถานการณ์ในยุโรปนั้น ที่สเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 282,852 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 482 ราย มีผู้เสียชีวิต 28,752 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 74 ศพ
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 229,858 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 531 ราย มีผู้เสียชีวิต 32,785 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 50 ศพ
ที่เยอรมนี มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 180,328 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 342 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 8,371 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5 ศพ
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 182,584 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 115 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 28,367 ศพ มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่ 35 ศพ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่ฝรั่งเศสได้เปิดให้บริการศาสนสถานทั่วประเทศ
เรียบเรียงจาก:,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.straitstimes.com/singapore,https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.themoscowtimes.com/,http://www.arirang.com/News/News_Index.asp,https://www.usatoday.com/news/,https://www.dw.com/en/top-stories/s-9097
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage