‘ศูนย์วิจัยกสิกรไทย’ ประเมินเศรษฐกิจไทยทั้งปี 63 ติดลบ 5% คาดลงลึกสุดไตรมาส 2/63 หวังมาตรการภาครัฐช่วยประคับประคองเศรษฐกิจ ขณะที่สำนักวิจัย CIMBT ลดเป้าจีพีดีเป็นติดลบ 8.9% ชี้ความหวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ที่ภาครัฐ
สำนักอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกมาประเมินว่า เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรกจะหดตัวลึกกว่าการหดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในไตรมาสที่ 2 จะหดตัวลึกที่สุด โดยคาดว่าจะติดลบราว 10% ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2563 ติดลบ 5.0%
ทั้งนี้ หากไม่มีการระบาดรุนแรงอีกระลอก อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเทียบไตรมาสต่อไตรมาสในช่วงครึ่งปีหลังอาจเป็นบวกได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศยังไม่กลับมาเป็นปกติ ดังนั้น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าอาจยังคงติดลบอยู่เล็กน้อย
“แม้ว่าการแพร่ระบาดจะคลี่คลายลงในไตรมาส 2/2563 และไม่มีการแพร่ระบาดซ้ำ แต่เศรษฐกิจไทยจะยังไม่สามารถพลิกฟื้นกลับมาได้เร็ว เนื่องจากแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้เงื่อนไขการรักษาระยะห่างโดยเฉพาะในภาคบริการทำให้ธุรกิจมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ในขณะที่รายรับถูกจำกัดด้วยกำลังซื้อและเงื่อนไขการรักษาระยะห่าง อีกทั้ง การแพร่ระบาดในต่างประเทศยังทำให้เศรษฐกิจไทยต้องหันกลับมาพึ่งพิงตลาดในประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยมาตรการภาครัฐที่กำลังดำเนินการอยู่จะช่วยประคับประคองการดำรงชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้สามารถผ่านวิกฤตินี้ไปได้”ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุด้วยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2563 หดตัว 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากปัจจัยลบหลายอย่าง ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาวะภัยแล้ง และความล่าช้าของพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 ทำให้แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแทบทุกตัวหดตัวลง ยกเว้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ยังขยายตัวได้ 3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งก็เป็นผลของปัจจัยชั่วคราวจากการซื้ออาหารและเครื่องดื่มก่อนประกาศล็อกดาวน์
ในขณะที่ทั้งปี 2563 ภาพรวมการใช้จ่ายครัวเรือนคาดว่าจะหดตัวที่ 1.5% ท่ามกลางการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานประกอบการหยุดชั่วคราวในช่วงเดือนเม.ย. และธุรกิจทยอยปิดกิจการ ทำให้กำลังซื้อและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยลดลง โดยเฉพาะสินค้าคงทน
นายอมรเทพ จาวา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ว่า สำนักวิจัยฯประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะติดลบ 8.9% โดยมีสาเหตุหลักจาการท่องเที่ยวที่ทรุดตัวอย่างหนัก โดยคาดว่าไตรมาส 2/63 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะติดลบ 99.99% และไตรมาส 3/63 จะติดลบ 90% ก่อนจะฟื้นตัวในไตรมาส 4/63 ถึงต้นปีหน้า ขณะที่การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะติดลบเกิน 10% เนื่องจากการส่งออกชะงัก เพราะหลายประเทศชัตดาวน์
“เศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะติดลบ 8.9% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะติดลบ 6.4% นั้น เนื่องจากเราประเมินว่าการท่องเที่ยวและการส่งออกที่ทรุดตัวกว่าที่ประเมินไว้ ในขณะที่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ความหวังอยู่ที่ภาครัฐเท่านั้น” นายอมรเทพกล่าว
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.50% โดยกนง.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 มีแนวโน้มหดตัวกว่าประมาณการเดิม ซึ่งในการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนมี.ค.63 กนง.คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะติดลบ 5.3% ก่อนที่จะกลับมาเติบโตที่ 3% ในปี 2564
อ่านประกอบ :
เสียงแตกลดดอกเบี้ย 0.25%! กนง.ประเมินศก.ไทยหดตัวเกินคาด-กังวลบาทแข็งค่า
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 