ประธานสหภาพฯการบินไทย ห่วงแผนฟื้นฟูฯลงเอยที่จัดซื้อเครื่องบินใหม่ พร้อมยอมรับสั่งลบโพสต์บทความพาดพิง 'ทักษิณ' ต้นเหตุทำขาดทุนสะสม ยันแม้เป็นข้อเท็จจริง แต่ไม่อยากถูกโยงเป็นเรื่องการเมือง ขณะที่ 'รักษาการดีดีบินไทย' ร่อนหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯขอเลื่อนส่งงบไตรมาส 1/63 ไปเป็นวันที่ 14 ส.ค.63
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เพจ 'TG UNION' ซึ่งเป็นเพจของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยโพสต์บทความเรื่อง ปูมการบินไทย ‘การบินไทย’ มรดกบาปจากใคร !! โดยระบุถึงสาเหตุที่ทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุนสะสม และพาดพิงการเร่งรัดจัดซื้อเครื่องบินใหม่ในช่วงปี 2544 ในสมัยของรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ทำให้บริษัทฯต้องประสบปัญหาขาดทุน แต่ข้อความดังกล่าวได้ถูกลบไปแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (9 พ.ค.) นายนเรศ ผึ้งแย้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา โดยยืนยันว่า เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวจริง แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้สั่งให้ลบบทความดังกล่าวแล้ว เพราะไม่ต้องการให้คนโยงไปถึงเรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียว แม้ว่าบทความดังกล่าวจะเป็นเกี่ยวกับปัญหาการขาดทุนสะสมของบริษัท แต่ก็ไม่ใช่แค่นายทักษิณอย่างเดียวที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะประธานสหภาพฯคนใหม่ ต้องการที่จะลบภาพที่เชื่อมโยงการเมืองออกจากสหภาพฯ เพราะในอดีตมีเรื่องที่ต้องจดจำไว้ว่า ประธานสหภาพฯคนเก่าได้ นำสหภาพฯเข้าร่วมกับ กปปส. ทำให้หลังจากนั้นการเคลื่อนไหวของสหภาพฯ ถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมืองมาโดยตลอด
“ผมสั่งให้ลบโพสต์ทิ้งเมื่อเช้านี้ เพราะเห็นว่าถูกโยงเป็นประเด็นทางการเมืองอีกแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่า เรื่องในอดีตสร้างความเจ็บปวดให้กับพวกเราทุกคน ทั้งที่การบินไทยเป็นธุรกิจให้บริการลูกค้า เราเลือกฝักใฝ่ทางการเมืองไม่ได้” นายนเรศ กล่าว
นายนเรศ กล่าวยืนยันว่า การที่สหภาพฯขอเข้าไปส่วนร่วมในแผนฟื้นฟูการบินไทยนั้น ไม่ใช่การขอเข้าร่วมยกร่างแผนฟื้นฟูฯใหม่ แต่ต้องการส่งตัวแทนไปสังเกตการณ์ทุกขั้นตอน เพราะการฟื้นฟูในอดีต การจัดทำแผนฟื้นฟูฯจะจบลงด้วยการกู้เงินเพื่อไปซื้อเครื่องบิน ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหา เช่นเดียวกับครั้งนี้ก็มีความกังวลว่าเงินกู้ 5 หมื่นล้านบาท จะนำไปซื้อเครื่องบินใหม่จนกลายเป็นหนี้สินสะสมก้อนใหม่หรือไม่
ส่วนข้อเสนอในการปรับจำนวนพนักงานนั้น นายนเรศ กล่าวว่า สหภาพฯไม่ขัดข้อง และเชื่อว่าถ้าทุกคนได้รับการชดเชยตามกฎหมายเพื่อไปสร้างชีวิตใหม่ เรื่องนี้จะไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
“วันนี้ไม่ต้องพูดกันว่าปัญหาภายในเป็นอย่างไร เพราะปัญหาไม่ได้เกิดจากคนข้างใน แต่ปัญหาเกิดจากการเมืองที่เข้ามากำกับนโยบาย วันนี้เราเห็นแผนฟื้นฟูก็เป็นห่วง มีทั้งลดจำนวนเครื่อง ทั้งลดพนักงานสุดท้ายก็จะไปจัดซื้อเครื่องบินใหม่กันอีก เรื่องพวกนี้ทำให้เราเจ็บปวด เพราะไปกู้เงิน ประชาชนตำหนิเรา และสุดท้ายเป็นหนี้เพิ่มทุกครั้งจากการจัดซื้อเครื่องบิน” นายนเรศ กล่าว
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการคนที่ 2 และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัท การบินไทย ขอเลื่อนการนำส่งงบการเงินของบริษัทฯ สำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 ออกไปเป็นวันที่ 14 ส.ค.63
ทั้งนี้ เนื่องจากการที่บริษัทฯจำเป็นต้องหยุดบินและปิดสถานที่ทำงาน ทั้งในและต่างประเทศตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.63 นั้น มีผลกระทบต่อการรวบรวมข้อมูล เอกสาร หลักฐาน และรายการทางธุรกิจที่ส่งผลต่อข้อมูลทางบัญชีที่สำคัญ และอาจทำให้เกิดข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการสอบทานของผู้สอบบัญชี อีกทั้งรายงานทางการเงินของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมยังได้รับไม่ครบถ้วน อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ใช้งบการเงินได้
สำหรับรายละเอียดหนังสือของบริษัท การบินไทย ระบุว่า "บริษัทมีความประสงค์จะขอผ่อนผันการจัดทำและการนำส่งงบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ซึ่งทวีความรุนแรงไปทั่วทุกภูมิภาคในโลก
ทำให้แต่ละประเทศเพิ่มมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด โดยกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานการบินพลเรือนของประเทศต่าง ๆ ออกมาตรการคัดกรองและห้ามเดินทางเข้า-ออกประเทศอย่างเข้มงวด
ดังนั้น บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องหยุดบินและปิดสถานที่ทำงาน ทั้งในและต่างประเทศตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2563 มีผลกระทบต่อการรวบรวมข้อมูล เอกสาร หลักฐาน และรายการทางธุรกิจ ที่ส่งผลต่อข้อมูลทางบัญชีที่สำคัญ และอาจทำให้เกิดข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการสอบทานของผู้สอบบัญชี
อีกทั้งรายงานทางการเงินของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมยังได้รับไม่ครบถ้วน ทำให้การแสดงรายการและการเปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินของบริษัทฯไม่สมบูรณ์เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ใช้งบการเงินได้ จึงเป็นเหตุผลและความจำเป็นในการขอผ่อนผันไปจนถึงไม่เกินกำหนดระยะเวลาจัดส่งงบการเงินงวดถัดไปคือ ภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2563
คณะกรรมการตรวจสอบบริษัทในการประชุมครั้งพิเศษที่ 2/2563 วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ได้พิจารณาและให้ความสำคัญในการจัดทำและเปิดเผยรายงานแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่ถูกต้อง และมีความน่าเชื่อถือเพียงพอสำหรับผู้ใช้งบการเงินในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีความไม่แน่นอน
จึงมีมติเห็นสมควรให้ขอผ่อนผันระยะเวลาการนำส่งงบการเงินสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกไป โดยจะนำส่งภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2563
เพื่อให้บริษัทและผู้สอบบัญชีมีระยะเวลามากขึ้นในการรวบรวม จัดทำและตรวจสอบข้อมูลที่จะมีการเปิดเผยให้แก่ผู้ลงทุนได้รับทราบให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน น่าเชื่อถือและการขอขยายระยะเวลาดังกล่าวเป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ที่ สจ.31/2563 ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งพิเศษที่ 9/2563 วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ได้มีมติเห็นชอบแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯได้เปิดเผยข้อมูลนี้ผ่านระบบการรับส่งข้อมูลขอลตลาดหลัดทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว"
อ่านประกอบ :
เช็คสถานะบินไทย ก่อนถูกผ่าตัดใหญ่-โอกาสสุดท้าย จาก ‘บิ๊กตู่’
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage