'ผู้ว่าฯอยุธยา' ลงนามคำสั่งให้คนทั้งจังหวัดต้องสวม 'หน้ากากอนามัย-หน้ากากผ้า' ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน หากอยู่ในบ้านและร้านค้าที่ต้องติดต่อบุคคลอื่น ต้องสวมแมสก์ด้วย มีผล 5 พ.ค.นี้ ฝ่าฝืนโทษปรับ 2 หมื่นบาท ชี้เป็นเร่งด่วน-หากปล่อยเนิ่นช้าสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงนามคำสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ 1496/2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) (ฉบับที่ 11)
สำหรับคำสั่งดังกล่าว กำหนดให้ประชาชนทุกคนภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ก่อนออกจากเคหสถาน และขณะอยู่นอกเคหสถาน หรือต้องติดต่อกับบุคคลอื่น หรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ หรือสถานที่ใดๆ ซึ่งมีบุคคลอื่นอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่อยู่ในเคหสถานร้านค้า หรือสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้ง
ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ (6 พ.ค.) สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยแพร่ข่าวว่า นายภานุ ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์แก้ไขการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เรียกประชุมคณะกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19
โดยนายภานุ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เริ่มมีแนวโน้มในทางที่ดี แต่ทางจังหวัดฯยังคงป้องกันการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัย ที่สามารถช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อได้ในวงจำกัด จึงได้ออกคำสั่งให้ประชาชนที่ออกนอกเคหะสถานหรือไปตามสถานที่ต่างๆ ต้องสวมหน้ากากอนามัย มิฉะนั้นอาจจะถูกดำเนินคดีได้
นายภานุ ยังขอความอนุเคราะห์ให้คนอยุธยาทุกคนร่วมด้วยช่วยกันให้ความเมตตาเกื้อกูลกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้ปัญหาโรคโควิด-19 อาทิเช่น เจ้าของกิจการสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับลูกจ้าง และผู้ให้เช่าสถานที่/ที่พัก ช่วยพิจารณาลดหย่อนผ่อนปรนค่าเช่าแก่ผู้เช่า เป็นต้น พร้อมทั้งได้สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ จัดเจ้าหน้าที่คอยให้บริการกับประชาชนทุกเรื่อง พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทุกอำเภอลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติและแนะนำเจ้าของกิจการให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
สำหรับยอดผู้ป่วยสะสมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ ปัจจุบัน มีผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 8 ราย รักษาหายแล้ว 7 ราย เสียชีวิต 1 ราย ส่งตรวจหาเชื้อรวมทั้งสิ้น 256 คน ส่งตรวจหาเชื้อรายใหม่ 2 ราย โดยทางสาธารณสุขได้นำเสนอข้อมูลในการออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ ควรเว้นระยะ มีระบบคัดกรอง รวมถึงการวิ่งออกกำลังกายต้องสวมใส่หน้ากากในช่วงที่คนหนาแน่น ในส่วนของการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีจำนวนทั้งสิ้น 31 ราย ส่งดำเนินคดี 7 ราย
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage