ยอดโควิดโลกตายเกินแสน! 'สหรัฐ' มีเชื้อครึ่งล.'ทรัมป์' ยันมะกันสู้ไหว-ตำนานลิเวอร์พูลติดด้วย

 'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดตายเกินแสนแล้ว สหรัฐฯติดเชื้อเกินครึ่งล้านแล้ว 'ทรัมป์' ชมคนในชาติมีวินัยช่วยกู้วิกฤติ เชื้อมะกันตายไม่เกินแสนแน่นอน โวมีระบบตรวจหาเชื้อดีที่สุดในโลก ที่อังกฤษ ตำนานนักเตะลิเวอร์พูลติดเชื้อด้วย ออสเตรเลีย ปท.ที่ 4 รักษาหายมากกว่าป่วย  google-Apple จับมือพัฒนาซอฟแวร์เตือนผู้ใช้งานเคยพบปะกับคนติดโควิดหรือไม่  

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุดว่า ในช่วงค่ำวันที่  10 เม.ย.2563 เว็บไซต์ World Meters รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 1,696,244ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 92,550 ราย มีผู้เสียชีวิต 102,594 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6,901 ศพ

โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 501,272 ราย ผู้ติดเชื้อใหม่ 32,706 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 18,664 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,973 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ยังเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวันผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในโลก

ที่ทำเนียบขาว มีการแถลงข่าวประจำวันของหน่ายงานเฉพาะกิจด้านการต่อต้านการแพร่ระบาดของไวรัส โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า เชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯจะไม่เกินจำนวน 1 แสนคนขึ้นไปอย่างแน่นอน จากช่วงแรกมีประเมินไว้ว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจะมีผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯสูงถึง 2.2 ล้านคน  ซึ่งต้องขอบคุณความมีวินัยของชาวสหรัฐที่ช่วยบรรเทาสถานการณ์ และตัวเขาจะพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อจะให้สหรัฐฯกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งหนึ่ง 

นายทรัมป์ ยังกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีการผลิตชุดตรวจสำเร็จแล้วมากกว่า 2 ล้านชุด ทำให้สหรัฐฯมีขีดความสามารถในการตรวจได้ถึงวันละ 1 แสนรายต่อวัน ถือเป็นประเทศที่มีความสามารถอันดับ 1 ในการตรวจหาเชื้อโควิด 19  อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการนำเอาชุดตรวจไปใช้ในบางรัฐ อาทิ รัฐไอโอว่า เพราะรัฐเหล่านี้มีการอาศัยของผู้คนที่กระจายห่างออกจากกันค่อนข้างมาก จึงมีความเสี่ยงในการติดไวรัสของประชากรค่อนข้างต่ำ

ขณะที่นางเดบราห์ เบิร์กซ์ เจ้าหน้ารับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด ได้กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อของสหรัฐยังไม่ถึงจุดสูงสุด แม้ตัวเลขผู้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในรัฐนิวยอร์กจะเริ่มน้อยลงแล้ว  

 การแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว (อ้างอิงวิดิโอจากช่องทำเนียบขาว)

สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์กยังเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 1ของประเทศ โดยมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 170,512ราย และมีผู้เสียชีวิต 7,844 ศพ                   

ขณะที่ประเทศสเปนมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสม 157,053 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,831 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 15,970ศพ และผู้เสียชีวิตรายใหม่ 523 ศพ ทำให้สเปนมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตใหม่มากเป็นอันดับหนึ่งในทวีปยุโรป 

ส่วนที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 147,577 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 3,951 ราย มีผู้เสียชีวิต 18,849 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 570  ศพ ล่าสุดรัฐบาลอิตาลีได้ขยายมาตรการปิดเมืองทั่วประเทศออกไปอีกจนถึงวันที่ 3 พ.ค.

สำหรับสถานการณ์ในฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 124,869 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,120 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 13,197 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 987  ศพ จึงทำให้ฝรั่งเศสมีตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในยุโรป

ส่วนที่เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อสะสม 121,045 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,810 ราย มีผู้เสียชีวิต 2,728 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 121 ศพ

ส่วนที่ประเทศอังกฤษนั้นมีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อสะสม 73,758 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,681  ราย มีผู้เสียชีวิต 2,728 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 121 ศพ ทำให้อังกฤษมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในยุโรป

และมีรายงานข่าวว่า นายเคนนี่ ดัลกลิช นักฟุตบอลระดับตำนวนของสโมสรลิเวอร์พูล ในวัย 69 ปี ก็ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 เช่นกัน

@ นายเคนนี่ ดัลกลิช /ภาพจาก http://bit.ly/nrirrN

ส่วนที่ตุรกีนั้นมีการออกมาตรการปิดเมืองเป็นระยะเวลา 48 ชั่วโมงติดต่อกัน ใน 31 จังหวัดทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งกรุงอิสตันบูล เมืองอังคารา และเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 โดยมาตรการปิดเมือง 48 ชั่วโมงนั้นจะมีผลตามตั้งแตเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 11 เม.ย. ตามเวลาประเทศตุรกี   

โดยสถานการณ์ล่าสุดของมีผู้ติดเชื้อสะสม 47,029 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,747 ราย มีผู้เสียชีวิต1,006 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 98 ศพ

ส่วนที่ออสเตรเลียนั้นมีผู้ติดเชื้อสะสม 6,203 ราย  ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 51 ราย ผู้เสียชีวิต 53 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ศพ

อย่างไรก็ดี ออสเตรเลียสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ 3,141 ราย ปัจจุบันมีผู้ป่วย 3,009 ราย นับเป็นประเทศที่ 4 ต่อจาก จีน เกาหลีใต้  อิหร่าน ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสอย่างรุนแรง (ติดเชื้อเกิน 1,000 คน) แต่สามารถพลิกสถานการณ์ รักษาผู้ป่วยให้หายได้มากกว่าจำนวนผู้ป่วยที่กำลังป่วยอยู่

สำหรับความเคลื่อนไหวอื่นๆนั้นมีรายงานว่า ณ เวลานี้บริษัทแอปเปิล และบริษัทกูเกิลได้ร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อที่จะตรวจสอบว่าเจ้าของผู้ใช้สมาร์ทโฟนนั้นได้ไปพบปะกับผู้ที่มีโอกาศติดเชื้อไวรัสมาหรือไม่ โดยคาดว่าจะมีการเปิดใช้งานซอฟแวร์แอพพลิเคชั่นดังกล่าวในช่วงกลางเดือน พ.ค. 

โดยวิธีการทำงานของซอฟแวร์ที่ แอปเปิลและกูเกิลคาดหวังว่าจะนำมาใช้งานมีดังต่อไปนี้  (ดูภาพประกอบ)

1.นางเจนและนายจอนได้พบปะและพูดคุยนานเกิน 10 นาที 

2.สมาร์ทโฟนของทั้ง 2 คน เมื่ออยู่ใกล้กันจะมีการแลกเปลี่ยนรหัสนิรนามประจำตัวบุคคลซึ่งกันและกัน  

3.ไม่กี่วันหลังจากนั้นจอนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ ข้อมูลของนายจอนจะถูกส่งไปที่ซอฟแวร์แอพพลิเคชั่นทันที 

4.ข้อมูลของนายจอนจะถูกส่งไปที่ศูนย์กลางข้อมูล 

5.สมาร์ทโฟนของนางเจนจะมีการดาวน์โหลด ตรวจสอบข้อมูลรหัสนิรนามของบุคคลที่พบปะอยู่เสมอ ว่าได้เคยพบปะกับเจ้าของรหัสนิรนามซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่

6.สมาร์ทโฟนของนางเจนส่งสัญญาณเตือนว่าเธอได้เคยพบปะกับผู้ที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19  

โดยทางผู้พัฒนาซอฟแวร์ได้ยืนยันว่าระบบจะไม่มีการบันทึกข้อมูลจีพีเอส และข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของโทรศัพท์แต่อย่างใด  

เรียบเรียงจาก:https://www.bbc.com/news/world,https://www.theguardian.com/international,https://www.aljazeera.com/news/,https://www.worldometers.info/coronavirus/

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/