158 ชีวิต กลับจากต่างประเทศ ล่าสุดรองโฆษก ตร. ระบุ เข้ามารายงานตัวครบแล้ว หลังเส้นตาย 18.00 น.ของวันที่ 4 เมษาฯ ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรค วอนให้ความร่วมมือ ลดเเพร่ระบาดต่อสังคม-ครอบครัว
วันที่ 4 เม.ย. 2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทาง (EOC)ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเเพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนจากการระบาดในทวีปเอเชียไปอยู่เเถบอเมริกาเเละยุโรป ทำให้ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยพบผู้ป่วยปะปนกับการเดินทางผ่านเครื่องบินเข้ามาภายในประเทศ ซึ่งพบในอังกฤษมีผู้ป่วย พยายามทานยาลดไข้ ปกปิดขึ้นเครื่องบินมาหรือพบประเทศที่อยู่ในเอเชียเเละเข้ามาในประเทศประมาณ 27 คน ตรวจพบเชื้อไวรัสฯ เกือบ 20 คน นั่นหมายความว่า มีความเสี่ยงจากพื้นที่เสี่ยงเเตกต่างออกไป ทำให้มีผู้ป่วยปะปนมา
"จากการคัดกรองมีบางส่วนอาจมีการเจ็บป่วย ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้มารายงานตัวอาจมีความเสี่ยงในการเจ็บป่วย เเละหากกลับไปเจอสมาชิกในครอบครัว อาจเเพร่โรคไวรัสฯ ได้ ดังนั้น หากประชาชนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เเละรัฐจำเป็นต้องกักตัวในสถานที่ ซึ่งรัฐจัดให้ ขอให้ญาติพี่น้องไม่ต้องมารับ เพื่อลดโอกาสการเเพร่โรคเเก่คนที่รัก เเละเป็นการลดเเพร่ระบาดของตัวโรคต่อสังคมโดยรวม" อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ
ด้านพล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) กล่าวว่า ข้อมูลก่อนเวลา 18.00 น. ของวันที่ 4 เม.ย. มีผู้มารายงานตัวเเล้ว 40 คน จากทั้งหมด 158 คน หากผู้ที่เดินทางกลับมาอยู่ต่างจังหวัดเเล้ว ให้รายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเเละสถานที่ดูเเล ส่วนในกรุงเทพฯ ให้มารายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทาง (EOC)ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอำนวยความสะดวก
ทั้งนี้ หากมีผู้ฝ่าฝืนไม่มารายงานตัว จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กำชับมาว่า หากพ้นกำหนดเวลา 18.00 น. เเล้ว ถือว่าขัดคำสั่งตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จำคุกสูงสุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เเละยังผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่า ยังมีหลายคนเกิดความสับสน เนื่องจากเพิ่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไป
ล่าสุด หลังเวลา 18:00 น. เพจกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุ พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ได้มอบหมายให้ พลเอก สุพจน์ มาลานิยม รองเสนาธิการทหาร เป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา กรณีผู้โดยสารที่เดินทางกลับประเทศไทยและไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคตามมาตรการของรัฐที่กำหนด (State Quarantine) โดยทำหน้าที่รับผิดชอบในการประสานรับคนไทยที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรายงานตัว กลับเข้าสู่ระบบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน นั้น
จากยอดรวมบุคคลที่เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 จำนวน 158 ราย ผลการคัดกรองผู้ที่มารายงานตัวล่าสุด (4 เมษายน 63) มีจำนวน 134 คน แบ่งเป็น การรายงานที่ EOC สนามบินสุวรรณภูมิ 65 ราย และ รายงานตัว ณ โรงแรมอีลีแกรนด์ โฮเตล 45 ราย ส่วนการรายงานตัว ณ ศูนย์ดำรงธรรม จำนวน 24 ราย
สำหรับขั้นตอนการรายงานตัวของบุคคล ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการตรวจคัดกรองแล้วนำเข้าจุดพักคอย จากนั้นจะนำไปขึ้นรถตู้พร้อมสัมภาระเพื่อส่งต่อไปยังโรงแรมอิลีแกรนด์ ( State Quarantine) สำหรับบุคคลที่มารายงานตัวที่โรงแรมอิลีแกรนด์ จะลงทะเบียนคัดกรองและนำเข้าที่พัก โดยขอให้ประชาชนโปรดให้ความร่วมมือและมีความมั่นใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ซึ่งได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ ในส่วนของบุคคลที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทยและไม่มารายงานตัวภายใน 18.00 น. อีก 24 คนนั้น จะต้องถูกดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในการนำตัวมากักกันทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น
จากนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้าการติดตามผู้โดยสารชาวไทยที่ได้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศเมื่อช่วงค่ำ ของวันที่ 3 เม.ย.63 ว่า ขณะนี้ชาวไทยทั้ง 158 รายได้มารายงานตัวครบแล้ว เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการกักตัวตามขั้นตอนต่อไป
อ่านประกอบ:เปิดข้อมูล 'เพศ-จว.' ผู้โดยสาร 4 สายการบิน- บุรีรัมย์ สั่งดำเนินคดีแล้ว 1 ราย มีไข้ 37.9 องศา
ใช้ยาแรงคุมโควิดสนามบิน! CAAT สั่งปิดท่าอากาศยานทั่วปท. ห้ามเครื่องบินเข้า 3 วัน
กห.ตั้ง กก.สอบ 'พล.ต.โกศล'ปมปล่อย 152 ผู้โดยสารออกจากสุวรรณภูมิไม่กักตัว
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage