สธ.เผยพบผู้ป่วยยืนยันติดโควิด-19 เพิ่มอีก 122 ราย สะสมเเล้ว 721 ราย อาการหนัก 7 ราย เเนวโน้มติดเชื้อใน ตจว.เพิ่มขึ้น ขอปชช.กลับไปภูมิลำเนากักกันตนเอง 14 วัน -รักษาระยะห่างทางสังคม
วันที่ 23 มี.ค. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 10 เปิดเผยถึงสถานการณ์ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ว่า พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 122 ราย เเบ่งเป็น
กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 20 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 4 ราย และกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 16 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 10 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ/ชาวต่างชาติ 4 ราย,กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 6 ราย
กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 92 ราย
สำหรับผู้ป่วยอาการหนักมี 7 ราย จากสถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โรงพยาบาลในสังกัดโรงเรียนแพทย์ และโรงพยาลบาลเอกชน ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
โดยสรุปมีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 52 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 668 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 721 ราย
ขณะนี้มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่ในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น เกิดจากมีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับภูมิลำเนาทั้งก่อนและหลังที่จะมีประกาศปิดสถานที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผอ.โรงพยาบาล, นายอำเภอ, สาธารณสุขอำเภอ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อสม., ผู้นำชุมชน ทันทีทุกคน พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ให้กักกันตัวเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด อย่างน้อย 14 วัน ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้อื่น เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1 -2 เมตร งด/ลด การเดินทางโดยไม่จำเป็น ไม่ไปในพื้นที่แออัด และแยกสำรับอาหาร สังเกตอาการหากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ รีบพบแพทย์ทันที
โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง อาทิ ผู้ชม ผู้ทำงาน ในสนามมวย สถานบันเทิง ที่กลับไปภูมิลำเนา พ่อ แม่ ภรรยา สามี ลูก หลาน หรือผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มดังกล่าวมีโอกาสติดเชื้อได้ การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การกักกันตัวเอง รักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
นายเเพทย์ทวีศิลป์ กล่าวย้ำผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหากยังไม่มีอาการ ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ให้กักกันตนเองอย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่างทางสังคม ที่สำคัญยังไม่ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เพราะหากยังไม่มีอาการโอกาสตรวจพบเชื้อมีน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าตัวเองไม่ป่วย ยังคงมีกิจกรรมทางสังคม ขาดการระมัดระวังตัวเอง แต่หากเมื่อป่วยภายหลังจะทำให้ผู้ใกล้ชิดมีโอกาสรับเชื้อ กลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และเจ็บป่วยตามมาอีกจำนวนมาก จากข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการล่าสุดมีผู้มาขอรับการตรวจทั้งหมด 30,000 ตัวอย่าง ในจำนวนนี้เป็นผู้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง (PUI) ประมาณ 10,000 ราย ผลยืนยันพบเชื้อเพียง 400 ราย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/