เปิดตัวอย่างเป็นทางการ! 'ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์' ตั้ง 'คณะก้าวหน้า' สานต่อภารกิจ 'อนาคตใหม่' ทำให้ความต้องการ 'ผู้กำกับภาพยนตร์' ยุบพรรคไม่สำเร็จ สร้างองค์กรขับเคลื่อนความคิดสังคมไทย ปักธงความคิดสถาปนาอำนาจนำใหม่ ลั่นถูกทำลายแต่ฟื้นคืนชีพกลับมาได้ดั่ง 'นกฟินิกซ์'
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันจัดรายการผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ แถลงข่าวเปิดตัว คณะก้าวหน้า (Progressive Movement) อย่างเป็นทางการ โดยนายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยคน 7 คนที่ใส่ชุดครุยแล้วขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์ กระทำในนามของศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ โดย 4 ใน 7 คนนี้หมดวาระลงไปแล้วแต่ได้รับการต่ออายุโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และอีก 2 คนก็ได้รับการคัดเลือกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ตั้งโดยหัวหน้า คสช. แม้รัฐธรรมนูญจะกำหนดให้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่สุดและผูกพันทุกองค์กร แต่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นหลังคำวินิจฉัยคงจะเป็นตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดีว่าคำวินิจฉัยนั้นมีพลังพอที่จะผูกพันในใจคนหรือไม่ พี่น้องประชาชนสามารถตัดสินพิจารณาได้เอง
"ภายหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธรได้มีการแถลงต่อว่าคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกตัดสิทธิจะเดินหน้าสานต่อภารกิจของพรรคอนาคตใหม่ในนามของ 'คณะอนาคตใหม่' แต่ด้วยความที่กฎหมายของประเทศไทยเป็นใจเสียเหลือเกินในการทำลายความทรงจำของประชาชนที่มีต่อพรรคอนาคตใหม่ ไม่ให้ใช้ชื่อ ชื่อย่อ หรือเครื่องหมายของพรรคอนาคตใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจนเป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าทำงาน เราจึงจำเป็นต้องไม่ใช่ชื่อจาก 'คณะอนาคตใหม่' มาใช้ชื่อ 'คณะก้าวหน้า' แทน แต่คำว่าอนาคตใหม่และพรรคอนาคตใหม่คือตำนานที่ยังมีชีวิต ยังเป็นประวัติศาสตร์ที่ยังคงเดินเรื่องอยู่ และเป็นจิตวิญญาณที่พร้อมจะเดินทางต่อเนื่องต่อไป" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า การกำเนิดขึ้นของคณะก้าวหน้าก็เพื่อตอบสนองเป้าหมายสองประการ 1) ทำให้ความต้องการของผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องยุบพรรคไม่สำเร็จ และ 2) สร้างองค์กรรณรงค์ขับเคลื่อนความคิดก้าวหน้าในสังคมไทย โดย ในประการแรก ผู้กำกับภาพยนต์เรื่องการยุบพรรคในตลอด 14 ปีที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์สามประการ หนึ่ง เพื่อดูด ส.ส.ของพรรคนั้นให้ไปอยู่อีกข้างหนึ่ง สอง เพื่อต้องการกำจัดบทบาทของแกนนำ และสาม เพื่อทำลายอุดมการณ์ของพรรคนั้นลงไป เพื่อไม่ให้การยุบพรรคสำเร็จในทางความเป็นจริงจึงมีความจำเป็นที่เราต้องก่อตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมา พวกเขาต้องการกำจัดบทบาทของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ แต่พวกเขาจะได้เห็นพวกเราเดินทางไปรณรงค์ทั่วประเทศ พวกเขาอยากทำลายความคิดแบบอนาคตใหม่ แต่ต่อไปเขาจะเห็นความคิดแบบอนาคตใหม่ถ่ายโอนและไหลเวียนเข้าไปอยู่ในคณะก้าวหน้าทุกอณู นำความคิดแบบอนาคตใหม่ไปรณรงค์ต่อเนื่องทั่วประเทศไทย คณะก้าวหน้าตั้งใจจะเป็นองค์กรใช้รณรงค์ขับเคลื่อนทางความคิด มุ่งมั่นปักธงความคิดก้าวหน้าให้กับสังคมไทย เดินหน้าสร้างพลเมืองก้าวหน้าให้กับประเทศไทย
"คณะก้าวหน้ามีภารกิจหลักสามข้อ 1) การสร้างเครือข่ายทั่วประเทศไทย 2) รณรงค์ทางความคิดทั่วประเทศไทย 3) รณรงค์หาเสียงให้กับการเลือกตั้งท้องถิ่นในทุกระดับทั่วประเทศไทย คณะก้าวหน้าเลือกใช้สัญลักษณ์เป็นวงกลมสีส้มล้อมรอบลูกศรสีน้ำเงินที่พุ่งทะลุวงกลมสีส้มออกไป แสดงถึงการออกไปให้พ้นกรอบเพดานข้อจำกัดต่างๆ ที่เป็นเครื่องกีดขวางความเจริญก้าวหน้าของสังคมไทย" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า คณะก้าวหน้าจะเดินหน้ารณรงค์ใน 12 ประเด็นพื้นฐาน ไม่วาจะเป็นปฏิรูปการศึกษา รัฐสวัสดิการ ปฏิรูปที่ดิน ทลายทุนผูกขาด สิ่งแวดล้อม เกษตรก้าวหน้า ปฏิรูปกิงทัพ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจก้าวหน้าและเป็นธรรม และที่สำคัญที่สุดคือการรณรงค์ให้มีการทำรัฐธรรมนูญใหม่ในฐานะที่เป็นฉันทามติใหม่ของสังคมไทยร่วมกัน ทั้งนี้เมื่อครั้งตนยังคงเป็นเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ตนได้อภิปรายและย้ำบ่อยครั้งว่าการเมือวงคือความเป็นไปได้ พรรคอนาคตใหม่เราเริ่มต้นเดินทางด้วยความคิดที่ว่าสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้ เราถูกตั้งคำถาม ดูถูก ตั้งข้อสงสัย แสดงออกถึงความไม่มั่นใจเสมอ ว่าสิ่งที่เราทำนั้นจะเป็นไปได้หรือ แต่พวกเราพรรคอนาคตใหม่ก็ได้พิสูจน์เอาไว้แล้วว่าตลอดสองปีที่ผ่านมา เราได้ทำสิ่งที่คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ มาวันนี้พรรคอนาคตใหม่ที่มีสมาชิกกว่า 6 หมื่นคน มีคนเลือกกว่า 6.3 ล้านคน มีเครือข่ายอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย แต่ได้ถูกคนเพียง 7 คนยุบไปนั้น เรากำลังอยู่ในบทพิสูจน์อีกครั้ง ว่าเราจะเดินต่อไปอย่างไร เราแพ้แล้วใช่หรือไม่ เมื่อถูกยุบพรรคแล้วการฟื้นตัวกลับมาคงเป็นไปไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ นี่เป็นอีกครั้งที่พวกเราชาวอนาคตใหม่ตกอยู่ในสถานการณณ์ที่จะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราจะพิสูจน์ให้ได้ว่าแม้เราจะถูกทำลาย แต่พวกเราจะฟื้นคืนชีพกลับมาได้ดังนกฟินิกซ์ ในชื่อของคณะก้าวหน้า
"นอกจากการเมืองคือความเป็นไปได้แล้ว การเมืองยังคือการเอาชนะกันทางความคิด เข้าไปสถาปนาอำนาจนำแบบใหม่ ในช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่เป็นวิกฤติการณ์แห่งอำนาจนำ นี่คือโอกาสที่เราจะรณงรงค์ทางความคิด ปักธงความคิดแบบใหม่ เพื่อโอกาสในการสถาปนาอำนาจนำแบบใหม่ ดังนั้น คณะก้าวหน้าจะปักธงความคิดก้าวหน้า หลอมรวมประชาชนต่อสู้กับโครงสร้างอยุติธรรม ที่คนส่วนน้อยของประเทศได้ประโยชน์จากการรีดคนส่วนใหญ่ เราจะเดินทางทำงานทางความคิด เพื่อให้ประชาชนจากที่เป็นเพียงจำนวนนับให้กลายเป็นองค์ประธานของสังคมไทย เป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวทิ้งท้ายว่า การเดินทางบทใหม่ได้เริ่มอย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ 54 คนได้นำความคิดอุดมการณ์แบบอนาคตใหม่เดินทางไปสังกัดพรรคก้าวไกลภายใต้การนำของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และชัยธวัช ตุลาธน และวันที่ 21 มีนาคม อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ได้ก่อตั้งคณะก้าวหน้าขึ้น นี่คือการเดินทางบทใหม่ของพวกเรา ขอเชิญชวนประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุงของประเทศ มาร่วมเดินทางไปด้วยกัน เพื่อทำให้พวกเขาเห็นว่าการยุบพรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถทำลายความฝันของพวกเราได้ เพื่อทำให้พวกเขาเห็นว่านิติสงครามไม่สามารถหยุดยั้งการเดินทางอย่างก้าวหน้าก้าวไกลไปสู่อนาคตใหม่ได้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศมาร่วมเดินทางไปกับ “คณะก้าวหน้า” ร่วมกันสร้างความคิดก้าวหน้าให้กับสังคมไทย ร่วมกันสร้างพลเมืองก้าวหน้าให้กับประเทศไทย ก้าวหน้าและก้าวไกลสู่อนาคตใหม่ที่พวกเรากำหนดเอง
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายปิยบุตร จาก ทีมโฆษกคณะก้าวหน้า
อ่านประกอบ :
ตามคาด! เปิดตัว 11 กก.บห.ก้าวไกล ‘พิธา’หัวหน้า-‘ชัยธวัช’เลขาฯ-‘คารม’กลับเข้าร่วม
เปิดตัวพรรคก้าวไกล!บ้านใหม่ 55 ส.ส.ส้ม -‘พิธา’รับการเมืองคือมาราธอนไม่ใช่วิ่งระยะสั้น
ก่อน ส.ส.ส้มเทกโอเวอร์? ใครเป็นใคร-ทำความรู้จัก‘พรรคร่วมพัฒนาชาติไทย-ผึ้งหลวง’
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/