สำนักข่าวสเตรทไทม์สิงคโปร์ แพร่ข่าว วิศวกรรมจุฬาฯ พัฒนาหุ่นยนต์รุ่น 'นินจา' ช่วยเหลืองานแพทย์ติดต่อคนไข้รับมือโรคโควิด 19 ใน 4 โรงพยาบาลพื้นที่ กทม. เผยเล็งต่อยอดพัฒนารุ่นส่งอาหาร ทำงานในพื้นที่ปลอดเชื้อได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวอ้างอิงจากสำนักข่าวสเตรทไทม์ของสิงคโปร์ว่า ล่าสุดโรงพยายาลในประเทศไทย ได้เปิดใช้งานหุ่นยนต์ที่ชื่อว่านินจาเพื่อทำหน้าที่วัดไข้และช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลรักษาเฝ้าติดตามผู้ป่วยโรคโควิด- 19 จากเชื้อไวรัสโคโรน่า
โดยหน้าที่ของหุ่นยนต์หลักๆ จะเป็นการเฝ้าจับตาการฟื้นตัวของผู้ป่วยโรคซึ่งมีอาการหนัก ซึ่งขณะนี้มีการใช้งานหุ่นยนต์ในพื้นที่โรงพยาบาล 4 แห่งทั่วกรุงเทพ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ โดยหมอและพยาบาล จะสามารถพูดคุยกับคนไข้ผ่านทางวิดิโอลิงก์ในตัวหุ่นยนต์ได้
“หุ่นพวกนี้สามารถยืนข้าง แล้วเราก็จะคุยกับคนไข้ผ่านตัวหุ่นยนต์อีกทีหนึ่ง” สำนักข่าวสเตรทไทม์ของสิงคโปร์ อ้างคำให้สัมภาษณของ ศ.ดร.วิบูลย์ แสงวีระพันธุ์ศิริ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งมีส่วนในการพัฒนาหุ่นยนต์ดังกล่าว
ศ.ดร.วิบูลย์ ยังกล่าวกับสำนักข่าวสเตรทไทม์ของสิงคโปร์ ด้วยว่า จะมีการพัฒนาหุ่นยนต์ให้มีรุ่นที่ก้าวหน้ากว่าที่ใช้อยู่ในขณะนี้ โดยคาดว่าหุ่นยนต์รุ่นต่อไปที่จะพัฒนาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ไวรัสนั้นจะสามารถนำอาหารและยาเข้าไปให้ผู้ป่วย และสามารถที่จะนำหุ่นเหล่านี้เข้าไปทำหน้าที่ยังพื้นที่ปลอดเชื้อโรคของพยาบาลได้
ข่าวยังอ้างคำให้สัมภาษณ์ของศ.ดร.วิบูลย์ ว่า ขณะนี้ตัวเขาและทีมวิศวรกรรมกำลังทำงานแข่งกับเวลาเพื่อจะสร้างหุ่นนินจาให้ได้มากกว่านี้อีก โดยตั้งเป้าว่าจะเอาหุ่นยนต์รุ่นดังกล่าวไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาล 10 แห่งทั่วประเทศ ส่วนสาเหตุที่ทางหุ่นยนต์รุ่นนี้ถูกใช้ชื่อว่านินจา ก็เป็นเพราะว่าหุ่นรุ่นนี้มีสีดำเป็นสีหลัก
สำนักข่าวสเตรทไทม์ของสิงคโปร์ ยังระบุด้วยว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากโรคแล้ว 1 คน มีผู้ติดเชื้อไปแล้วมากกว่า 200 คน และมีอีกมากกว่า 40 คนได้รับการรักษาทางการแพทย์จนหายและถูกส่งตัวออกจากโรงพยาบาลแล้ว
อ้างอิงจาก: https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/thai-hospitals-deploy-ninja-robots-to-aid-coronavirus-battle
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage