ผลตรวจ 'อุตตม' ออกแล้ว ยันไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา เจ้าตัวโพสต์เฟซฯ จะกักตัวเองต่อไปตามแนวทางป้องกันสาธารณสุข ทำงานที่บ้านไปจนครบ 14 วัน หลังเกิดเหตุนายตำรวจติดตามติดเชื้อเข้ารักษาตัวอยู่รพ.ตำรวจ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า ในช่วงเย็นวันที่ 19 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ยันยืนผลตรวจจากโรงพยาบาล ไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคโควิด 19 แต่อย่างใด
"ขออัพเดทผลตรวจเชื้อโควิด-19 ของผม เมื่อสักครู่ได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลแล้วว่า ผลตรวจของผมเป็นลบ หมายความว่าไม่ติดเชื้อครับ อย่างไรก็ตาม ผมจะกักตัวเองต่อไปตามแนวทางป้องกันของสาธารณสุข และทำงานที่บ้านไปจนครบ 14 วัน"
"สำหรับวันนี้ผมได้ประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับท่านรองนายกรัฐมนตรีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งออกมาตรการชุดที่ 2 ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งต้องมีข้อสรุปโดยเร็ว หากมีบทสรุปแล้วจะแจ้งให้ทุกท่านทราบต่อไป"
สำหรับกรณีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปว่าแล้ว ในช่วงเย็นวันที่ 18 มี.ค.2563 มีการยืนยันข้อมูลจากนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต่อสื่อมวลชนว่า ตำรวจติดตามนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโรคติดเชื้อโควิด-19
นายธนกร กล่าวยืนยันว่า เพิ่งทราบว่าตำรวจในรถนำขบวนนายอุตตมได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา และจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นายตำรวจรายนี้ มาทำงานเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 วันเดียวแล้วหยุดไป เพิ่งทราบว่าได้รับเชื้อจึงไปเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
นายธนกร ยังระบุด้วยว่า ส่วนนายอุตตมก็เพิ่งทราบเรื่องและได้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลอยู่ระหว่างการรอผล แต่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที 14 วัน โดยจะทำงานที่บ้านผ่านทางวีดีโอคอนเฟอเรนต์แทน แต่ขอยืนยันว่านายตำรวจรายนี้ ไม่ได้นั่งในรถตู้คันเดียวกับนายอุตตม แต่เป็นชุดติดตามรักษาความปลอดภัยนั่งในรถนำขบวน
นายธนกร ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในกระทรวงการคลังนั้น นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข โดยได้ประสานงานไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้เข้ามาตรวจสอบตามระเบียบ พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่พ่นยาฆ่าเชื้อทุกพื้นที่แล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/