สธ.พบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' รายใหม่ 35 คน เกินครึ่งมีประวัติสัมพันธ์กับผู้ป่วยเดิม ยอดสะสม 212 คน
วันที่ 18 มี.ค. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทย พบว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ยืนยันรายใหม่ 35 ราย กลับบ้านได้แล้ว 42 ราย รับการรักษาตัวอยู่ รพ. 169 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ทั้งหมด 212 ราย
ผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคสะสม 7,546 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน (17 มี.ค.) 501 ราย สำหรับผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น 35 รายนั้น จำแนกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ดังต่อไปนี้
กลุ่มที่ 1 พบผู้ป่วยจากการสืบค้นหาประวัติสัมพันธ์กับผู้ป่วยหรือเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ ทั้งหมด 29 ราย แบ่งเป็น
-สนามมวย 13 ราย โดยพบว่าเป็นผู้ชมในกรุงเทพฯ ขอนแก่น สมุทรปราการ เชียงใหม่ สุโขทัย นครราชสีมา กาฬสินธ์ และร้อยเอ็ด
-สถานบันเทิงย่านทองหล่อ 4 ราย
-สัมผัสกับผู้ป่วยที่รับรายงานมาก่อนหน้านี้ 12 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย โดยเป็นผู้เดินทางกลับจากกัมพูชา 1 ราย, ผู้ทำงานใกล้ชิดกับผู้สัมผัสต่างชาติ 4 ราย (พนักงานต้อนรับ บริกร และนิติบุคคลของคอนโดมิเนียม) และผู้รอผลการสอบสวนเพิ่มเติม 1 ราย
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยอาการหนักได้รับรายงานเพิ่มนั้นมี 2 ราย จากจ.สุราษฎร์ธานี และเพชรบูรณ์ ซึ่งรายแรกเป็นชายไทย อายุ 49 ปี เริ่มป่วยวันที่ 8 มี.ค. 2563 ด้วยอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่น ต่อมาพบว่า ปอดอักเสบ การทำงานของไตผิดปกติ ขณะนี้อยู่ที่หอผู้ป่วยวิกฤติ รพ.ใน จ.สุราษฎร์ธานี
รายที่สอง เป็นชายชาวเบลเยี่ยม อายุ 67 ปี เดินทางมาจากเบลเยี่ยม มีภาวะวิกฤติระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ใส่ท่อช่วยหายใจ และรับยาต้านไวรัสเรียบร้อย ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ใน จ.เพชรบูรณ์
ขณะที่อีกหนึ่งผู้ป่วยอาการหนักรายเก่ายังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดที่สถาบันบำราศนราดูร
นายแพทย์สุวรรณชัย ยังกล่าวว่า ส่วนผู้เดินทางกลับจากประเทศอิตาลี ขณะนี้เดินทางกลับมาและและถูกกักกันอยู่ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี จำนวน 83 ราย และ 6 ราย ที่รับตัวไว้ในรพ. ปรากฎว่า ผลการตรวจไม่พบการติดเชื้อไวรัสฯ อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังตามมาตรฐาน 14 วัน
“สัปดาห์ทีผ่านมามีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากการคัดกรองครอบคลุมกลุ่มบุคคลและสถานที่ระบาด สอดคล้องกับการรายงานการสอบสวนโรค พบว่า ผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นวัยหนุ่มสาว ให้ประวัติการทำงานออกไปนอกประเทศ พื้นที่เสี่ยง สถานที่คนแออัด กิจกรรมสังสรรค์ หลายคนไม่ลดกิจกรรมทางสังคม ไม่เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่กักกันตนเองเคร่งครัด ทำให้นำโรคไปติดคนใกล้ชิดในครอบครัว” อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/