คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม วินิจฉัยอุทธรณ์ ให้ ผอ.สนข. ยกเลิกคำสั่ง ลงโทษภาคทัณฑ์ ลูกน้อง ปมพูดก่อกวน ไม่สุภาพ ดูแคลนเจ้าหน้าที่หญิง สตง. ชี้กระบวนการ ตั้ง กก.ไต่สวน มิชอบ ให้กลับไปจัดการใหม่ให้ถูกต้อง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2563 คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) มีคำวินิจฉัยยกเลิกคำสั่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ที่ 198/2560 ลงวันที่ 24 ต.ค.2560 ที่สั่งลงโทษภาคทัณฑ์ นายอรุณ อังศุยานนท์ ข้าราชการตำแหน่งวิศวกรชำนาญการ สังกัดฝ่ายพัฒนาระบบการจราจรทางบก กองจัดระบบการจราจรทางบก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และ ผู้อำนวยการ สนข. ดำเนินการใหม่ให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ ก.พ.ค. ให้เหตุผลว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้อุทธรณ์ (นายอรุณ อังศุยานนท์ ) มิได้ดำเนินการตามมาตรา 94 (3) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ประกอบข้อ 12 วรรคสอง และข้อ 17 ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้อุทธรณ์จึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงมีผลทำให้การดำเนินการทางวินัยก่อนสั่งลงโทษผู้อุทธรณ์ไม่ถูกต้อง ตามกฎหมายไปด้วย
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจาก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร โดยนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ เลขาฯ สนข. (ปัจจุบันเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม) มีคำสั่งที่ 198/2560 ลงวันที่ 24 ต.ค.2560 ลงโทษภาคทัณฑ์ นายอรุณ อังศุยานนท์ ฐานไม่สุภาพเรียบร้อย ไม่รักษาความสามัคคี และไม่ช่วยเหลือกันในการปฏิบัติราชการ ระหว่างข้าราชการด้วยกันและผู้ร่วมปฏิบัติราชการ กรณี นายอรุณ อังศุยานนท์ และนายสมบูรณ์ อ่อนภักดี เข้าไปพบและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินซึ่งเป็นผู้หญิงในห้องบริเวณ อาคารสำนักงาน สนข. พูดเสียงดัง ส่อเสียด ดูถูกดูแคลนการปฏิบัติงานของ สตง.ในการตรวจสอบงบการดำเนินการของ สนข.และแสดงกิริยาไม่สุภาพในลักษณะก่อกวน
ต่อมา นายอรุณได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค. ปฏิเสธว่าไม่ได้มีพฤติการณ์ตามที่กล่าวหา เพียงแต่เข้าไปแลกเปลี่ยนขอความรู้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น คำพูดของคู่กรณีในอุทธรณ์ ไม่มีพยานหลักฐานหักล้างแต่อย่างใด อีกทั้ง สนข. มิได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการต่างกระทรวงกันถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร่วมกันให้เป็นไปตามกฏ ก.พ.ว่าด้วยการทางวินัย พ.ศ.2556 ข้อ 12 ที่กำหนดว่า ในกรณีที่ข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งต่างกันหรือต่างกรม หรือต่างกระทรวงกัน ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำผิดวินัยร่วมกัน การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามวรรคนี้ให้เป็นไปตามมาตรา 94 และข้อ 16 และข้อ 17 ของกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำนินการทางวินัย พ.ศ.2556 แต่กรณีนี้ฝ่ายนิติการได้มีการรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงวันที่ 29 ธ.ค.2559 โดยคณะกรรมการสืบสวนเห็นควรดำเนินการทางวินัยกับนายอรุณ (ผู้อุทธรณ์) และนายสมบูรณ์ อ่อนภักดี ทั้งที่ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับโอนนายสมบูรณ์ไปรับราชการ ณ กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที 10 ต.ค.2559 แต่ สนข. มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรงเอาผิดนายอรุณ(ผู้อุทธรณ์) เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2560 จึงเห็นว่าเป็นคำสั่งไม่ถูกต้อง
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า นายอรุณ อังศุยานนท์ เคยเป็นผู้ร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีให้มีการตรวจสอบโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ในช่วงปี 2559
สำหรับ ก.พ.ค.ชุดนี้มีนายวชิร สงบพันธ์ เป็นประธานกรรมการ
อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง:
ทุลักทุเล!ภาพบิ๊ก สนข. สั่งอุ้มตัวซี 7 ลูกน้องออกห้องประชุม ปมถกที่ปรึกษา
ซี 7 ยื่นร้องนายกฯโดน ย้ายไม่เป็นธรรม ปมปูดจ้างที่ปรึกษารถไฟฯ 117.6 ล.