นายกฯ กลับลำไม่แจกเงินคนละ 2,000 บาทแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า 3,000 บาทแทน พร้อมสั่ง ‘พลังงาน’ ชงมาตรการลดค่าไฟฟ้า-ค่าก๊าซ-ค่าน้ำมัน
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 มี.ค.นี้ จะไม่มีการเสนอมาตรการแจกเงินคนละ 2,000 บาท ให้ ครม.พิจารณา แต่จะมีการเสนอมาตรการอื่นแทน คือ การคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าให้ประชาชน 3,000 บาท รวมทั้งจะมีการพิจารณามาตรการเพิ่มเติม เช่น จะลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และค่าก๊าซฯ ให้ประชาชนได้อย่างไรบ้าง
“เรื่องจ่ายเงิน 2,000 บาท คงจะไม่จ่ายแล้ว เอาไว้อีกระยะหนึ่ง แต่เราจะคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าให้แทน ซึ่งวันนี้มีเงินประกันคนละ 3,000 บาท อันนี้จะคืนให้ ซึ่งมากกว่า 2,000 บาทแล้ว ดังนั้น ทุกคนที่บ้านของตัวเองจะได้เงินตรงนี้ ส่วนผู้ประกอบการขนาดใหญ่ เราคงไม่คืนให้ และวันนี้เราได้มีการหารือกับกระทรวงพลังงานเรื่องค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และค่าก๊าซ โดยให้ไปดูว่าจะลดราคาลงได้บ้างเท่าไหร่” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
นายกฯ ยังกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องชะลอการแจกเงินคนละ 2,000 บาทนั้น เพราะรัฐบาลต้องกันเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อดูแลเอกชนในภาคการท่องเที่ยว ร้านค้า การจัดอีเว้นท์ รวมถึงคนขับรถบัส 7,000 คัน เป็นต้น โดยรัฐบาลจะไปพิจารณาว่าจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง อย่างเรื่องการจัดประชุมในประเทศ ก็ได้ให้ส่วนราชการไปพิจารณาว่าพอจะจัดได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้ได้สั่งห้ามการไปดูงานต่างประเทศได้แล้ว และหากมีการจัดประชุมในประเทศได้ ก็จะช่วยไม่ให้โรงแรมลดการจ้างงาน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า พร้อมนำมาตรการช่วยเหลือเป็นเงินมาใช้หากมีความจำเป็น ส่วนการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง อาชีพอิสระ และขายสินค้านั้น กระทรวงการคลังจะต้องไปดำเนินการ โดยจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการทำบัญชีให้พร้อม
“วันนี้เราจะปล่อยมาตรการทีละขั้น และบางอย่างถ้าใช้มาตรการภาษีมากไป รายได้ก็ลดลง เงินยิ่งไม่มีเข้าไปอีก หรือถ้าเราจะทำต้องแบบโครงการ ‘มิยาซาว่า’ จะต้องกู้เงินเขา ถ้าจำเป็นค่อยว่ากันอีกที เพราะงบประมาณปี 63 ก็รู้แล้วว่าเป็นอย่างไร และก่อนหน้านี้ได้ขอให้ไปดูงบปี 63 ว่า ขอให้สั้นๆหน่อยก็แล้วกัน อะไรที่ต้องผูกพันกันระยะยาว ก็ขอให้ถอนก่อนได้หรือไม่ เพราะรูปแบบยังไม่พร้อม จะได้เหลือเม็ดเงินมาเติมตรงนี้”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการในภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่น เรื่องภาษี การปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการขยายเวลาในการยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมถึงการลดค่าเช่าอาคารที่อยู่ในที่ราชพัสดุ เป็นต้น นั้น จะเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติเหมือนเดิม และรัฐบาลจะทยอยออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆออกมาเป็นระยะ
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า จะนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นตรงนี้ไปให้ได้ เพียงแต่ต้องขอความร่วมมือ ต้องขอความเข้าใจจากประชาชน และอะไรที่ตื่นตระหนก ตนเองก็พยายามจะสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องเข้าไปด้วยหลักการของกฎหมาย
“มาตรการออกไปเยอะแล้ว แต่คนเข้าไม่ถึง เป็นเพราะอะไร แสดงว่าการสื่อสารเรายังไม่ดีใช่หรือไม่ รัฐบาลต้องรับผิดชอบตรงนี้ ดังนั้น หน่วยงานทุกกระทรวง ผมคาดโทษไปแล้วว่าต่อไปนี้ต้องทำทั้งหมด ถ้าตรงไหนไม่ดี ผมจะได้เล่นงานให้ถูกต้อง อะไรที่เป็นความขัดแย้งกันเบาๆลงหน่อย เพราะว่าจะทำให้ไม่เกิดความเชื่อมั่น ถ้าใครทุจริตตรงไหน ก็ฟ้องตรงนั้น และวันนี้ก็ตอบชัดเจนแล้วนะ เลิกว่าผมซักที เสาร์อาทิตย์แย่เลย หง่อมเลย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามนายกฯว่า เหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ถามเหนื่อยมั้ย ก็เหนื่อย แต่ไม่มาก ยังทนไหว ไม่ใช่ทนสิ ต้องปลุกตัวเองตลอดเวลาว่าต้องทำนะ ถ้าไม่ทำ จะทำอย่างไรกันต่อไป ดังนั้น ในช่วงที่ผมยังอยู่ ก็ทำให้ดีที่สุด มากน้อยอยู่ประชาชนจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ บางอย่างเกิดเร็วไม่ได้ ถ้าเกิดเร็วก็ล้มทุกที ถึงต้องเดินเป็นระยะๆ อันไหนทำได้ก็ทำต่อไป ทำไม่ได้ก็ยกเลิก คนรุ่นใหม่คนรุ่นเก่าความคิดมันก็ต่างกัน ความขัดแย้งค่อนข้างสูง
และผมได้พูดกับครม.ว่า เราไม่ทำการเมืองตอนนี้ ในขณะที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหา เราต้องทำงานในนามรัฐบาลเพื่อประชาชนทั้งประเทศ เป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามรัฐธรรมนูญทุกประการ”
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage