นายกฯสั่ง ‘ตร.-พาณิชย์’ ลงตรวจสอบ 5 จุด ล่าพ่อค้ากักตุนหน้ากากอนามัย เผยไม่เรียก ‘ธรรมนัส’ เข้าชี้แจง หลังมีทีมงานฯ ไปพบพ่อค้าคุยเรื่องหน้ากากอนามัย
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ (9 มี.ค.) ตนได้สั่งการให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ลงไปตรวจสอบพื้นที่ 5 จุด ว่า มีการกักตุนหน้ากากอนามัยหรือไม่ ซึ่งรวมถึงจุดที่โซเชียลมีเดียระบุว่ามีพ่อค้ากักตุนหน้ากากอนามัยด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบอยู่ว่าเป็นอย่างไร และขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิตตินันท์ รักเอียด คณะทำงานของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ไปพบกับนายศรสุวีย์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ซึ่งเป็นพ่อค้าที่อ้างว่ามีหน้ากากอนามัยจำนวนมากพร้อมขาย และได้มีการพูดคุยกันในเรื่องหน้ากากอนามัยนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็กำลังตรวจสอบอยู่นี่ แล้วมีรายงานเข้ามาว่า เจ้าตัว (นายพิตตินันท์) ที่ถูกกล่าวอ้างได้ไปแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ก็ไปว่ากันมา แล้วก็ค่อยว่ากันอีกที”
เมื่อถามว่าจะมีการเรียกร.อ.ธรรมนัสเข้ามาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่คุยๆ ผมไม่คุย ถ้าตรวจสอบเจอ และเกี่ยวข้องกับใครก็ลงโทษกันไป อันนั้นเป็นคำกล่าวอ้าง ก็ไปพิสูจน์ทราบกันมา เดี๋ยวถ้าจับได้ และเกี่ยวข้องกันจริงก็สืบถึงอยู่ดี ต้องให้เวลาการทำงาน ให้ความเป็นธรรมกับทุกคนทุกภาคส่วน ไม่ใช่พูดอะไรมา ก็บอกว่าผิดๆ ตั้งแต่ต้น ต้องตรวจสอบก่อน ผมไม่ยุ่งกับกระบวนการยุติธรรมใดๆทั้งสิ้น ใครผิดก็ว่าไปตามผิด”
พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า ปัจจุบันโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยในไทย 11 แห่ง ผลิตหน้ากากอนามัยได้เดือนละ 38 ล้านชิ้น หรือวันละมากกว่า 1 ล้านชิ้น โดยหน้ากากอนามัยวันละ 8-9 แสนชิ้น ได้มีการจัดสรรไปให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งตอนนี้จัดสรรได้ครบถ้วนแล้ว ส่วนอีกวันละ 7 แสนชิ้นได้นำไปแจกจ่ายจำหน่ายในช่องทางปกติ โดยรัฐบาลได้สั่งการให้เข้าไปตรวจสอบว่าแล้วว่าที่หน้ากากอนามัยหายไปจากตลาดนั้นมันหายไปไหน
ส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย โดยเฉพาะแรงงานที่กลับมาจากเกาหลีใต้นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ได้มีระบบการคัดกรองตั้งแต่ต้นทาง หากมีไข้จะปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง และเมื่อมาถึงประเทศไทยแล้วจะมีการคัดกรอง 3 ชั้น หากตรวจพบว่ามีไข้ก็จะกักตัวทันที ส่วนคนที่ไม่มีไข้จะถูกนำไปกักตัวในสถานที่ที่เตรียมไว้ 200 แห่ง พร้อมทั้งได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยลงไปติดตามแรงงานที่เล็ดลอดไปก่อนหน้านี้ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง
“เมื่อลงสนามบินแล้วจะต้องผ่านการคัดกรอง 3 ขั้น ถ้ามีไข้ก็กักตัวทันที แต่ถ้าไม่มี จะส่งไปยังสถานที่ควบคุมกักกัน ซึ่งเราเตรียมพื้นที่กักกันไปแล้ว 200 แห่ง แต่ไม่บอกว่าเป็นที่ไหนบ้าง แต่เป็นสถานที่ที่สามารถควบคุมได้ เป็นสถานที่ปิด ไม่ให้คนเข้าออกนอกจากเจ้าหน้าที่ เหมือนกับที่สัตหีบ ส่วนแรงงานที่เข้ามาก่อนหน้านี้ เราใช้วิธีการตรวจสอบย้อนกลับ และให้กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ ทหาร และท้องถิ่นไปดูว่ามีใครเล็ดลอดไปบ้าง”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาว่า หากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้าสู่ระยะที่ 3 จะต้องมีการเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนการดูแลบุคลากรทางการแพทย์ได้สั่งการให้ไปพิจารณาเรื่องการทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม เช่น ประกันสุขภาพในกรณีไวรัสโควิด-19 โดยวันนี้การแพร่ระบาดของไวรัสยังอยู่ในจำนวนจำกัด และไทยมีคนไข้เพิ่มขึ้นไม่มาก แต่เราต้องเชื่อมั่นเชื่อกันและกัน
อ่านประกอบ :
'ธรรมนัส' ยันผู้ติดตามถูกแอบอ้างกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล.ชิ้น-บ.ทรูไลน์ เมดฯ ยังไม่ชี้แจง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/