สธ.แจงปมยกเลิกประกาศฯ เขตติดโรคติดต่ออันตราย 9 ประเทศ หลังเผยแพร่ไม่นาน เผยนายกฯ เรียกประชุม ทบทวนมาตรการ กำหนดพื้นที่กักกัน 14 วัน ขณะที่ยอดผู้ป่วย ‘โควิด-19’ สะสมเท่าเดิม 43 ราย ไทยอยู่อันดับ 17
สืบเนื่องจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล เผยเเพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง "ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease2019 :COVID-19)" มีใจความสำคัญกำหนดให้ท้องที่นอกราชอาณาจักร ได้เเก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลี จีน (รวมมาเก๊าเเละฮ่องกง) ไต้หวัน ฝรั่งเศส สิงคโปร์ อิตาลี อิหร่าน เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ต่อมาสำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข เเจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ประกาศฯ ดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ ขอให้รอฉบับใหม่ เนื่องจากยังมีข้อมูลเนื้อหาบางส่วนต้องเเก้ไขนั้น
(อ่านประกอบ:รอฉบับใหม่! สธ.เเจ้งยกเลิกประกาศฯ 9 ประเทศ เขตติดโรคโควิด-19)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 4 มี.ค. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 10 เปิดเผยถึงการยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายฯ ก่อนหน้านี้ ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมในเช้าวันนี้ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เข้าร่วมด้วย คาดว่าน่าจะมีการทบทวนเกี่ยวกับมาตรการออกมา
“ในประเด็นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ให้รอดูวันนี้จะมีการประกาศกี่ประเทศ”
สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 10 กล่าวต่อในประเด็นประกาศกระทรวงฉบับที่ยกเลิกไป มีผลบังคับใช้หรือไม่นั้น ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ให้มีการประกาศเขตติดโรคอันตราย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการประกาศออกมา และหากมีออกมาเมื่อใด รัฐจะต้องมีพื้นที่กักกันกำหนด 14 วัน ซึ่งขอให้รอผลการประชุมในวันนี้
นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังระบุถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (3 มี.ค. 2563) ด้วยว่า มีมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยให้ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ติดตามดูแลคนไทยในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างใกล้ชิด ขณะที่ทุกส่วนราชการให้มีการระงับหรือเลื่อนการเดินทางไปในประเทศที่มีการแพร่ระบาดหรือที่มีการเฝ้าระวัง
เตรียมสถานที่ที่สังเกตอาการคัดกรองผู้ป่วย ส่วนเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดต้องกักตัว 14 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา ให้จัดหาเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นเพิ่มเติมและหากจำเป็นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานของบประมาณเพิ่มเติม ตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาโรคไวรัสฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล และประชุมเตรียมพร้อมป้องกันสม่ำเสมอ เพื่อหาทางแก้ไข
พร้อมกันนี้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งจัดสินค้าที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อให้เพียงพอกับความต้องการและต้องดูแลบุคลากรทางการแพทย์อย่างเหมาะสม ให้กระทรวงพาณิชย์ป้องกันการกักตุนสินค้า ขณะที่กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขให้บูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลรองรับพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาป้องกันสาธารณภัย ส่วนกระทรวงคมนาคมคัดกรองผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมืองดจัดกิจกรรมที่ต้องมีการรวมตัวของประชาชน
“กระทรวงสาธารณสุขได้กำชับหน่วยงานในสังกัดให้ดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนของนายกรัฐมนตรี พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 17 ประเทศที่มีผู้ปวยยืนยันรายใหม่ในรอบวัน โดยมีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 43 ราย ในจำนวนนี้กลับบ้านได้ 31 ราย รักษาในโรงพยาบาล 11 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา 1 ราย ที่มีอาการหนักยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจ .
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/