สตง.แพร่ผลสอบโครงการปรับปรุงศูนย์จัดการมูลฝอยรวมแบบครบวงจร เทศบาลเมืองบ้านไผ่ขอนแก่น 32 ล้าน พบปัญหาความล่าช้าในการดำเนินงานเพียบ เหตุการบริหารสัญญาขาดความต่อเนื่อง แถมเอกชนคู่สัญญานำงานไปจ้างช่วงโอนสิทธิ์เรียกร้องหลายครั้ง หวั่นทำให้ราชการเสียประโยชน์ จี้หน่วยงานรับผิดชอบปรับปรุงแก้ไขด่วน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการปรับปรุงศูนย์จัดการมูลฝอยรวมแบบครบวงจรของเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น วงเงิน 32,837,000 บาท ซึ่งพบปัญหาความล่าช้าในการดำเนิน ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารสัญญาขาดความต่อเนื่อง ทั้งเอกชนคู่สัญญายังมีการนำงานไปจ้างช่วงและการโอนสิทธิ์เรียกร้องหลายครั้ง จึงทำให้การดำเนินการไม่เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่กำหนด
สตง. ระบุว่า โครงการปรับปรุงศูนย์จัดการมูลฝอยรวมแบบครบวงจร เทศบาลเมืองบ้านไผ่ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณภายใต้โครงการถ่ายโอนการสนับสนุนแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 วงเงินงบประมาณทั้งโครงการ 46,800,000 บาท สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของราคา ตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 เห็นชอบความเหมาะสมของราคาโครงการปรับปรุงศูนย์จัดการมูลฝอยรวมแบบครบวงจร เทศบาลเมืองบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ในวงเงิน 32,837,000 แบ่งเป็นเงินอุดหนุนจากสำนักงบประมาณ 29,453,300 บาท เงินกองทุนสิ่งแวดล้อม 100,000 บาท และเงินงบประมาณเทศบาลเมืองบ้านไผ่สมทบ 3,283,700 บาท
จากการตรวจสอบ ผลการดำเนินงาน พบว่า การดำเนินการจัดจ้าง เทศบาลเมืองบ้านไผ่ ทำสัญญาจ้าง กับบริษัท บรรทัดไทย จำกัด จำนวนเงิน 32,837,000 บาท ตามสัญญาจ้างเลขที่ 11/2561 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2561 ส่วนการบริหารสัญญาจ้างตามสัญญาจ้างก่อสร้างดังกล่าว ระบุผู้รับจ้างต้อง
เริ่มทำงาน ภายในวันที่ 29 มีนาคม 2561 และต้องทำงานให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ภายในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 และขยายระยะเวลาก่อสร้างเป็นสิ้นสุดวันที่ 10 พฤษภาคม 2562
ขณะที่จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ณ 16 สิงหาคม 2562 พบว่า ผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานและเบิกจ่ายเงินแล้วจำนวน 3 งวด ดังนี้
งานงวดที่ 1 ผู้รับจ้างส่งมอบรถขุดดินตีนตะขาบ ยี่ห้อ Powerplus รุ่น PP300E-XII ขนาดไม่น้อยกว่า 200 แรงม้า จำนวน 1 คัน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุตรวจรับงานตามหนังสือฉบับลงวันที่ 1 มิถุนายน 2561 เบิกจ่ายเงินจำนวน 5,880,000 โดยบริษัท บรรทัดไทย จำกัด ให้บริษัท เพาเวอร์พลัส กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง
งานงวดที่ 2 ผู้รับจ้างขอแก้ไขสัญญา ตามบันทึกสัญญาเพิ่มเติมต่อท้ายสัญญาจ้าง (ครั้งที่ 1 ) ลงวันที่ 28 มีนาคม 2562 และบันทึกแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมต่อท้ายสัญญาจ้าง (ครั้งที่ 4) ลงวันที่ 19 มีนาคม 2561 โดยผู้รับจ้างส่งมอบรถแทรคเตอร์ตีนตะขาบ ยี่ห้อ LIUGONG รุ่น CLGB160CR คณะกรรมการฯ ตรวจรับงานตามหนังสือฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2562 เบิกจ่ายเงินจำนวน 6,126,000 โดยบริษัท บรรทัดไทย จำกัด ให้บริษัท เอ็มดี ทรัค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง
งานงวดที่ 3 ผู้รับจ้างส่งมอบรถบรรทุกกระเทท้าย ชนิด 6 ล้อ คณะกรรมการฯ ตรวจรับงานตามหนังสือฉบับลงวันที่ 1 เมษายน 2562 เบิกจ่ายจำนวนเงิน 1,850,000 โดยบริษัท บรรทัดไทย จำกัด ให้บริษัท โมเดิร์นคอมพลีท จำกัด เป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง
งานงวดที่ 4 ผู้รับจ้างแจ้งส่งมอบตามหนังสือ ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2562
งานงวดที่ 5 และ 6 ผู้รับจ้างแจ้งส่งมอบตามหนังสือ ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2562
รวมงานงวดที่ 4 – 6 เป็นจำนวนเงิน 18,981,000 คณะกรรมการตรวจรับพัสดุและผู้ควบคุมงาน พบว่า ผลการปฏิบัติงานยังมีการดำเนินการไม่ถูกต้อง ครบถ้วนตามแบบรูปรายการก่อสร้างและสัญญา เทศบาลเมืองบ้านไผ่จึงทำหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบ ตามหนังสือเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ที่ ขก 5404/2172 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2562 เรื่อง แจ้งผลการตรวจสอบการแจ้งส่งมอบงานของผู้รับจ้าง โครงการปรับปรุงศูนย์จัดการมูลฝอยรวมแบบครบวงจร เทศบาลเมืองบ้านไผ่
จากกรณีดังกล่าว ถือว่าผู้รับจ้างดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามสัญญาซึ่งกำหนดให้ปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จ วันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเมื่อนับระยะเวลาดำเนินการ เพียงวันที่ 16 สิงหาคม 2562 พบว่า การดำเนินการล่าช้า 98 วัน จำนวนเงินค่าปรับวันละ 82,093 รวม ค่าปรับเป็นเงินจำนวน 8,045,114 คิดเป็นร้อยละ 24.50 ของวงเงินตามสัญญาจ้าง ขณะที่ ผู้รับจ้างเบิกจ่ายเงินแล้ว รวมจำนวน 13,856,000 คิดเป็นร้อยละ 42.20 ของจำนวนเงินทั้งหมดตามสัญญา
สตง.ระบุด้วยว่า จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า โครงการปรับปรุงศูนย์จัดการมูลฝอยรวมแบบครบวงจรของเทศบาลเมืองบ้านไผ่มีความล่าช้า การบริหารสัญญาขาดความต่อเนื่อง ทั้งยังมีการนำงานไปจ้างช่วงและการโอนสิทธิ์เรียกร้องหลายครั้ง จึงทำให้การดำเนินการไม่เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ ส่งผลให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ตามวัตถุของโครงการ ทำให้เสียโอกาสเนื่องจากไม่ได้ใช้บ่อฝังกลบขยะภายในระยะเวลาที่กำหนด และอาจส่งผลกระทบถึงสิ่งแวดล้อมหากบ่อฝังกลบที่ใช้งานในระหว่างการก่อสร้างมีปริมาณขยะเต็ม กระทั่งไม่สามารถรองรับปริมาณขยะได้อีก และอาจทำให้การฝังกลบขยะมูลฝอยขาดประสิทธิภาพ
เบื้องต้น สตง. มีข้อเสนอแนะให้นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ให้ศึกษาทำความเข้าใจ และถือปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด รอบคอบ เพื่อป้องกันมิให้เกิดข้อบกพร่อง และให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ตามโครงการอย่างมีประสิทธิภาพและทันกาล และในโอกาสต่อไป เทศบาลเมืองบ้านไผ่ควรทำหนังสือแจ้งเตือนผู้รับจ้างโดยเร็วกรณีผู้รับจ้างเข้าทำงานล่าช้าและต้องแจ้งเตือนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นหลักฐานป้องกันปัญหาข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการส่งมอบพื้นที่และควรสั่งกำชับคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ตรวจสอบคุณสมบัติรวมทั้งตรวจสอบในด้านศักยภาพของผู้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นคู่สัญญา โดยตรวจสอบจากข้อมูลผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาโดยละเอียดเพื่อนำประกอบการพิจารณาคัดเลือก ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/