'นายก' ยันสอบปัญหาบ้านจัดสรรต้นเหตุกราดยิงที่โคราชแน่ รับห่วงโซเชียลต้นเหตุสร้างพฤติกรรมเลียนแบบ ด้าน 'สาธิต' เผยดูแลจิตใจกันทั้งปี เล็งให้กรมสุขภาพจิตประเมินคนทำงานต้องใช้ปืนกันเหตุซ้ำรอยอีก
สืบเนื่องจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กรณี จ.ส.อ. นายทหารสังกัดกองสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 ก่อเหตุบุกเข้ามาในห้างเทอมินอล 21 ใช้อาวุธสี่งครามกราดยิงประชาชนและต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนถึง 30 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก โดยสาเหตุเบื้องต้น มีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุไปทวงเงินค่านายหน้าซื้อขายที่ดินบ้านจัดสรร โดยผู้ก่อเหตุมาทวงค่านายหน้า แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงก่อเหตุสังหาร พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ผู้บังบัญชา และ นางอนงค์ แม่ยายของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ เสียชีวิต ก่อนที่จะก่อเหตุร้ายแรงตามมา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าหลังจากการประชุคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวประเด็นเรื่องเหตุการณ์กราดครั้งนี้ว่าในขณะนี้ได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบในประเด็นเรื่องมูลเหตุจูงใจอยู่ ว่ามาจากอะไร โดยวัตถุประสงค์ของโครงการก็คือให้ข้าราชการมีบ้านเป็นของตัวเอง ก็คงต้องไปดูที่ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน โดยจะต้องไปดูในประเด็นว่าปัญหาการทำให้เกิดช่องว่างและการเอาเปรียบนั้นอยู่ที่ตรงไหน ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะต้องมีการเปิดช่องทางให้เหล่าทหารสามารถแจ้งเรื่องมายังผู้บัญชาการทหารบกได้ในทุกกรณีนอกเหนือจากช่องทางการร้องเรียนโดยปกติ ควบคู่ไปกับการดูปัญหาของมาตรการที่ใช้ในขณะนี้
“ที่ผมเป็นห่วงตอนนี้คือเรื่องพฤติกรรมเลียนแบบ โดยเฉพาะในเรื่องการใช้เว็บและโซเชียล เพราะมันก็มีโอกาสที่จะเกิดการเลียนแบบได้ อันนี้ผมยกตัวอย่างมาจากต่างประเทศที่เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นก็ต้องมาดูแล้วว่าปัญหาในสังคมของเรามันอยู่ตรงไหน ถ้าหากใช้โซเชียล ก็ควรจะใช้ในทางที่จะสร้างสรรค์กันมากกว่า” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้ได้สัมภาษณ์ทางด้านของนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยนายสาธิตได้ชี้แจงว่าขณะนี้ได้สั่งการให้กรมสุขภาพจิตเข้าไปตรวจสอบและดูแลสุขภาพจิตของผู้ที่ประสบเหตุกันอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยคาดการณ์ว่าการฟื้นฟูกันนั้นก็คงต้องมีการดำเนินการกันทั้งปี
นายสาธิตกล่าวต่อว่าหลังจากนี้นั้นจะได้มีการเสนอให้กรมสุขภาพจิตนั้นมีการประเมินสุขภาพจิตเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ประเมินสภาพจิตใจของผู้ที่ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืน และอาจจะต้องประเมินสุขภาพจิตของผู้ที่ครอบครองอาวุธปืนส่วนบุคคลด้วย เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
“เวลารับสมัครงาน มันควรมีการประเมินเรื่องสุขภาพจิตด้วย เพราะที่ผ่านมาก็เคยเกิดกรณีผู้ป่วยซึมเศร้าที่เป็นนักบินก่อเหตุขับเครื่องบินชนภูเขาที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่ยอมรับว่าตรงนี้ก็ยากเหมือนกันเพราะมันก็เป็นแค่การประเมินครั้งแรก เราก็ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเขาจะซึมเศร้าแค่ไหน อย่างไร” นายสาธิตกล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/