สภาเภสัชกรรมห่วงคนไทยตื่นตระหนก ‘ไวรัสโคโรน่า’ ซื้อขนานยาตามรายงานแพทย์ รพ.ราชวิถี ‘LPV/r- Oseltamivir’มาใช้เอง หวั่นถูกหลอกผ่านออนไลน์ ย้ำชัดไม่ใช่สูตรใหม่
วันที่ 4 ก.พ. 2563 รศ.ดร.ภญ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม เปิดเผยถึงกรณียาโลพินาเวียร์/ลิโทนาเวียร์ (lopinavir/ritonavir : LPV/r) และยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) เพื่อรักษาอาการป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 ในงานแถลงข่าวเรื่อง LPV/r และ Oseltamivir ยารักษาโคโรน่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ :กรณีศึกษาพัฒนาคุณภาพระบบทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการเข้าถึงยา ณ ห้องประชุมสภาเภสัชกรรม ชั้น 10 อาคารที่ทำการสภาวิชาชีพด้านสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
รศ.ดร.ภญ.จิราพร กล่าวว่า สภาเภสัชกรรมให้ความสำคัญในเรื่องการเข้าถึงยาของผู้ป่วย โอกาสผู้ป่วยที่จะได้รับการรักษา ดังนั้น ในกรณีผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้เห็นความสำคัญของยา เมื่อเกิดโรคระบาด ไม่ว่าจะเป็น โรคระบาดอุบัติใหม่ หรือโรคระบาดอื่นใดก็ตาม ยาเป็นหัวใจในการรักษา เพราะฉะนั้นในเรื่องของระบบอาจมีปัญหาทำให้ผู้ป่วยเข้าไม่ถึงยา นั่นคือ ทรัพย์สินทางปัญญาหรือสิทธิบัตร
สิทธิบัตรจึงเป็นเรื่องที่เราต้องเคารพในทรัพย์สินทางปัญญาได้คิดค้นหรือวิจัยสิ่งประดิษฐ์นั้น แต่การวิจัยคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใด ๆ ก็ตาม ต้องได้รับผลตอบแทนเหมาะสม ไม่ใช่การค้ากำไรเกินควร โดยเฉพาะยาที่เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ผู้ป่วยไม่สามารถต่อรองราคาหรือแพทย์ไม่สามารถต่อรองราคา เพราะชีวิตของผู้ป่วยมีความสำคัญ ฉะนั้นระบบทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับสิทธิบัตรต้องเหมาะสม และให้ความยุติธรรม ทั้งผู้ใช้ยาและผู้คิดค้น
นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวยกตัวอย่างกรณีการใช้ยาโลพินาเวียร์/ลิโทนาเวียร์ และยาโอเซลทามิเวียร์ ไม่ว่าจากการรายงานของแพทย์ในประเทศจีนหรือจากแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี พวกเราชื่นชมการทำงานของทีมแพทย์ เภสัชกรและบุคลากรทางสาธารณสุข ช่วยกันดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ โดยเฉพาะโรคอุบัติใหม่ เพราะฉะนั้นการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ จึงเป็นโรคอุบัติใหม่ เนื่องจากยังไม่มีแนวทางรักษาหรือยาที่มีผลหรือได้ผ่านการวิจัยค้นคว้าพบว่าใช้ในการรักษา
จึงเห็นว่า การรายงานจากทีมแพทย์จีน หรือรายงานทีมแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี เป็นความพยายามของทีมแพทย์ เภสัชกร และบุคลากรทางสาธารณสุข ที่ดูแลผู้ป่วยของตนเอง โดยใช้ประสบการณ์ความรู้ของยาที่ใช้ในการติดเชื้อไวรัสที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ซึ่งการใช้ยาต้าน HIV หรือไวรัสไข้หวัดใหม่หรือไข้หวัดรุนแรง เพราะฉะนั้นการใช้ยาดังกล่าวถือเป็นความพยายามในการรักษา และเมื่อได้ผลดี พวกเราชื่นชม แต่ในการรักษาหรือค้นพบ ไม่ใช่การวิจัยหรือพัฒนาตัวยาใหม่ จึงไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ แต่เป็นการค้นพบที่เป็นประโยชน์ในการควบคุมโรค ดังนั้น การรายงานถือเป็นประโยชน์
รศ.ดร.ภญ.จิราพร กล่าวต่อว่า สิ่งที่สภาเภสัชกรรมกังวล คือ การตื่นตระหนกโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของประชาชนหรือสังคมที่พยายามหาซื้อยา แล้วใช้เพื่อป้องกัน เพราะจะทำให้เกิดเชื้อดื้อยา ที่เราพยายามรณรงค์ให้ใช้ยาสมเหตุผล ทั้งนี้ ยาดังกล่าวมีความจำเป็นที่สำคัญแพทย์พยายามรักษาผู้ป่วย รักษาชีวิต ของผู้ติดเชื้อ เพื่อไม่ให้แพร่ระบาดมาสู่พวกเรา และให้ชีวิตผู้ติดเชื้อ จึงไม่ควรตื่นตระหนกมากเกินไป แล้วนำยามาลองใช้เอง เพื่อป้องกันหรือเข้าใจว่าเป็นไข้หวัดหรือติดเชื้อ แต่หากมีอาการไข้สูงให้รีบพบแพทย์รักษาทันที ทั้งนี้ ไม่สามารถหาซื้อได้ตามออนไลน์ เพราะเป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องรับจากสถานบริการเท่านั้น .
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทะลุ 2 หมื่น ยอดผู้ติดเชื้อในจีน-สีจิ้นผิง ย้ำจนท.ทำงานแข่งกับเวลาคุมไวรัสอู่ฮั่น
'อนุทิน' เผยผู้ป่วยจีนติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ชื่นชม-มั่นใจระบบการรักษาของไทย
ยอดผู้ป่วยไวรัสอู่ฮั่นดับ 304 ราย ในจีนแผ่นดินใหญ่ - ญี่ปุ่นเจอคนติดเชื้อแซงไทยแล้ว
กูเกิ้ลจับมือองค์การอนามัยโลกเปิดตัว SOS Alert แชร์ข้อมูลไวรัสอู่ฮั่น-ยอดดับในจีนพุ่ง 259 ราย
WHO ประกาศให้การติดเชื้อไวรัสโคโรน่า เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข-ยอดเสียชีวิตพุ่ง 213
เปิดแผนที่แบบเรียลไทม์ แสดงการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า
ระบาดมากกว่าโรคซาร์ SCMP ชี้ไวรัสโคโรน่า ยอดเสียชีวิตพุ่ง 132 คนแล้ว
สหประชาชาติ ชมจีนพยายามคุมการระบาดไวรัสโคโรน่า-ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 106 คนแล้ว ไทยเจอเพิ่มอีก 6
จีนประกาศยอดเสียชีวิตไวรัสโคโรน่า เพิ่มเป็น 80 ราย-นายกฯหลี่ เค่อเฉียง ลงพื้นที่อู่ฮั่น
ไวรัสโคโรนา : ความท้าทายใหม่ของมนุษย์
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/