ศาลปค.สูงสุด แพร่กำหนดนัดนั่งพิจารณาคดี กลุ่มซีพี ฟ้องค้านมติประมูลอู่ตะเภาฯ ครั้งแรก 7 พ.ย.62 นี้ เผยเนื้อหาอุทธรณ์ ยกเหตุจราจรติดขัด ชี้การรับซองข้อเสนอครบถ้วนย่อมก่อให้เกิดปย.กับรัฐมากกว่ายึดถือเวลาสายเพียงแค่ 9 นาที ด้านความเคลื่อนไหว ทร. ล่าสุดเรียกตัวแทนฝ่ายเอกชนเปิดซอง2 แล้ว หลังศาลฯ สั่งทุเลาบังคับตามมติคกก.ก่อนหน้านี้
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2562 สำนักงานศาลปกครอง ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ศาลปกครองสูงสุดกำหนดนัดนั่งพิจารณาคดี บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก ประกอบไปด้วย 1. บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี 2. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) 4. บี.กริม จอยน์ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ 5. Orient Success International Limited (ผู้ฟ้องคดี) กับ คณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (ผู้ถูกฟ้องคดี) กรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ครั้งแรก ในวันที่ 7 พ.ย.2562 นี้ เวลา 13.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี 12 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2562 ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ในส่วนที่ปฏิเสธไม่รับข้อเสนอ ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ และซองข้อเสนอด้านราคา ของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้คณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ รับพิจารณาเอกสารดังกล่าวให้เป็นไปตามขั้นตอนการดำเนินการคัดเลือกต่อไปแล้ว (อ่านประกอบ : ศาลปค.สูงสุด สั่งทุเลาบังคับตามมติคกก.อู่ตะเภาฯ ให้รับซองกลุ่มซีพีไว้พิจารณา)
โดยในการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ดังกล่าว มีการระบุข้อมูลว่า คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งห้า ฟ้องว่าคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีมติไม่รับซองข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีบางรายการ (ข้อเสนอตัวจริงกล่องที่ 6 (ข้อเสนอทางเทคนิคและแผนธุรกิจ) และตัวจริงกล่องที่ 9 (ข้อเสนอด้านราคา)) ในการยื่นข้อเสนอในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ตามหนังสือที่ กพอ.ทร.182/2562 ลว.10 เม.ย. 2562 โดยอ้างว่าผู้ฟ้องคดีได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวเกินกำหนดเวลา เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
คดีนี้ ศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองกลาง) มีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กองทัพเรือในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการได้ดำเนินการเปิดและปิดรับซองข้อเสนอของเอกชนผู้ยื่นข้อเสนอ กำหนดเวลาเปิดรับซองข้อเสนอเวลา 09.00 น. และปิดรับซองข้อเสนอในเวลา 15.00 น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอรายหนึ่งในจำนวนดังกล่าวได้นำซองข้อเสนอไม่ปิดผนึกมายังห้องรับรอง
ต่อมาเวลา 13.52 น. ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าได้นำซองข้อเสนออีกจำนวน 8 กล่อง มายังห้องรับรอง คณะทำงานรับและจัดเก็บเอกสารข้อเสนอซึ่งได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งคณะกรรมการบริหารเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ (เฉพาะ) ที่ 43/2561 ลว. 16 พ.ย. 2561 ให้ทำหน้าที่รับตรวจนับข้อเสนอ ทำบัญชีรายชื่อ ได้ตรวจสอบหมายเลขซองข้อเสนอที่ระบุบนกล่องข้อเสนอทั้งหมดของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าที่มาถึงห้องรับรองแล้ว พบว่าผู้ฟ้องคดีทั้งห้ามีความประสงค์ที่จะยื่นข้อเสนอจำนวนทั้งหมด 11 กล่อง แต่ข้อเสนอมีเพียง 9 กล่อง เท่านั้นที่มาถึงห้องรับรอง โดยขาดข้อเสนอ 2 กล่อง ได้แก่ กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 และต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 15.07 น. ปรากฏว่า มีรถยนต์บรรทุก หมายเลขทะเบียน 1 ฒค 9367 กรุงเทพมหานคร เข้ามายังกองบัญชาการกองทัพเรือ โดยรถดังกล่าวได้นำกล่องข้อเสนอที่ขาดอยู่ 2 กล่อง มายังห้องรับรองในเวลาประมาณ 15.09 น. ทั้งนี้ โดยมีภาพถ่ายแสดงเหตุการณ์ข้างต้นพร้อมระบุเวลาชัดแจ้ง รายละเอียดตามเอกสารดังกล่าวแสดงว่าซองข้อเสนอ 2 กล่อง ได้แก่ กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 มาถึงยังสถานที่รับซองข้อเสนอภายหลังเวลา 15.00 น. อีกทั้ง ผู้ฟ้องคดีทั้งห้ายอมรับตามคำแถลงชี้แจงเพิ่มเติม ลว.16 พ.ค. 2562 ว่าเอกสารข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ไปถึงห้องรับรองชาวต่างประเทศ กองบัญชาการกองทัพเรือ ในเวลา 15.08 น. เหตุที่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าส่งมอบเอกสารดังกล่าวล่าช้า เนื่องจากในวันดังกล่าวการจราจรติดขัด
ข้อเท็จจริงข้างต้นจึงรับฟังได้ว่าเอกสารซองข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า จำนวน 2 กล่อง คือ กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ไปถึงยังสถานที่รับซองข้อเสนอภายหลังกำหนดระยะเวลาตามที่ระบุไว้ในข้อ 31 (1) ของเอกสารการคัดเลือกเอกชนฯ ผู้ถูกฟ้องคดีย่อมมีหน้าที่ปฏิเสธไม่รับไว้เพื่อพิจารณาในขั้นตอนต่อไปตามที่ระบุไว้ในข้อ 31 (3) โดยไม่สามารถพิจารณายกเว้นให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าเป็นกรณีพิเศษได้
มิเช่นนั้นจะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อเอกชนรายใดรายหนึ่งและทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม การที่กล่องข้อเสนอทั้ง 2 กล่อง ถูกนำเข้ามารวมอยู่กับกล่องข้อเสนออีก 9 กล่อง ที่มาถึงห้องรับรองอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ก่อนเวลา 15.00 น. และถูกนำไปเก็บรวมไว้ที่ห้อง Navy Club กองบัญชาการกองทัพเรือ จึงไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของเอกสารการคัดเลือกเอกชน เอกสารหลัก เล่มที่ 1 ข้อแนะนำผู้ยื่นข้อเสนอ ลว. 16 พ.ย. 2561 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้นการที่ผู้ถูกฟ้องคดีในการประชุม ครั้งที่ 6/2562 เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2562 ได้รับทราบผลการชี้แจงความก้าวหน้าของคณะทำงานรับและจัดเก็บเอกสารข้อเสนอแล้วมีมติไม่รับเอกสารข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าในส่วนของซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 กับฉบับสำเนา และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 กับฉบับสำเนา เนื่องจากเป็นเอกสารที่ได้ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นซองเอกสารข้อเสนอตามที่กำหนดในเอกสารการคัดเลือกเอกชน ข้อ 31 (1) และ (3) และมีหนังสือสำนักงานบริหารเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออกของกองทัพเรือ ด่วนมาก ที่ กพอ.ทร.182/2562 ลว. 10 เม.ย. 2562 แจ้งมติให้ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าทราบ มติดังกล่าวจึงสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การคัดเลือกและชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าจึงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด สรุปความได้ว่า การให้ผู้ฟ้องคดีทั้งห้ายื่นซองข้อเสนอให้ครบถ้วนย่อมก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับรัฐมากกว่าการยึดถือเวลาเพียง 9 นาที ซึ่งอาจมีบุคคลใดเห็นว่าเป็นข้อบกพร่องของผู้ฟ้องคดีอยู่บ้างแต่การเปิดโอกาสให้ผู้ฟ้องคดียื่นซองข้อเสนอเพื่อแข่งขันกับผู้ยื่นข้อเสนออีก 2 ราย อย่างครบถ้วนและเป็นธรรมนั้น จะเป็นการเปิดกว้างให้คณะกรรมการนโยบายฯ ได้ใช้ดุลพินิจตัดสินใจในการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนซึ่งไม่ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรง การที่ผู้ถูกฟ้องคดีนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่ผู้ฟ้องคดีนำเอกสารจำนวน 2 กล่อง คือ กล่องที่ 6 และที่ 9 มา ณ จุดลงทะเบียนยื่นข้อเสนอเมื่อเวลา 15.09 น. มาเป็นเหตุในการมีมติไม่รับข้อเสนอซองที่ 2 และที่ 3 จึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่ขัดต่อหลักพอสมควรแก่เหตุ ขัดต่อหลักความได้สัดส่วนและไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ในส่วนที่ปฏิเสธไม่รับข้อเสนอ ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ และซองข้อเสนอด้านราคา ของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ได้เชิญตัวแทนกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด มาเปิดซองที่ 2 ไปแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการส่งเรื่องให้ที่ปรึกษา และคณะกรรมการกลั่นกรองตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องของข้อมูลว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์เข้าร่วมการประกวดราคาหรือไม่ ก่อนที่จะมีการเสนอให้คณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาพิจารณาผลเป็นทางการในเร็วๆ นี้ หากผ่านการพิจารณาก็จะมีการเปิดซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา ต่อไปตามขั้นตอน เช่นเดียวกับเอกชนคู่แข่ง 2 ราย ที่ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้
อ่านประกอบ :
กลุ่มซีพีสู้ต่อ! อุทธรณ์ศาลปค.สูงสุด ค้านมติประมูลอู่ตะเภาฯ-ทร.ชิงประกาศผู้ชนะ 24 ก.ย.
กลุ่มซีพีแพ้! ศาลปค.กลาง ยกฟ้องค้านมติประมูลอู่ตะเภาฯ 2 แสนล.-ยื่นซองเกินเวลา
รู้ผลแพ้ชนะ 21ส.ค.นี้! ศาล ปค.นัดอ่านคำพิพากษากลุ่มซีพี ฟ้องค้านมติอู่ตะเภาฯ 2 แสนล.
กลุ่มซีพีฯพ่ายยกแรก! ศาลปค.ฯ ยกคำขอคุ้มครองชั่วคราวฟ้องมติเลือกเอกชนพัฒนาอู่ตะเภาฯ
อุบผลไต่สวนมูลฟ้องค้านมติเลือกเอกชนพัฒนาอู่ตะเภาฯ2แสนล.- รองผบ.ทร. ขอทำข่าวแจก17 พ.ค.นี้
ทร.ยันโครงการสนามบินอู่ตะเภาเป็นธรรม-คาดพิจารณาคุณสมบัติเสร็จก่อนสิ้น พ.ค.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/