‘เดชา’ พร้อมเครือข่ายฯ หารือนอกรอบ ‘อนุทิน’ ปมคุณสมบัติหมอพื้นบ้าน ได้ข้อสรุป รมว.สธ.เตรียมใช้อำนาจแก้บทเฉพาะกาล ข้อ 47 ระเบียบสาธารณสุขฯ ปี 62 ให้ผู้ได้รับรองเดิมเป็นอัตโนมัติ พร้อมทำทันทีหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 21 ก.ค. 2562 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ พร้อมด้วยเครือข่ายสนับสนุนกัญชาเสรีเพื่อการรักษาโรคสำหรับประชาชน 12 องค์กร และนายยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) เข้าพบเป็นการส่วนตัวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังไม่รับรองตำรับน้ำมันกัญชาสูตรนายเดชา เนื่องจากติดคุณสมบัติ แม้จะเป็นหมอพื้นบ้านที่ได้รับการรับรองจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกก็ตาม
ทั้งนี้ ภายหลังการหารือร่วม 2 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปว่า รมว.สธ. จะใช้อำนาจหลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วแก้ไขระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน ปี 2562 บทเฉพาะกาล ข้อ 47 (ให้หน่วยงานนำรายชื่อผู้ได้รับการรับรองหมอพื้นบ้าน ตามระเบียบกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองหมอพื้นบ้าน พ.ศ. 2554 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามระเบียบนี้ เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาในโอกาสแรก )ให้นายเดชา รวมถึงหมอพื้นบ้านอีก 3,000 คน ที่ได้รับการรับรองเดิม สามารถเป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบฉบับใหม่โดยอัตโนมัติและให้ใบรับรองยังคงอยู่จนกว่าจะสิ้นอายุตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556
นายอนุทิน เปิดเผยว่า นายเดชา ได้รับการรับรองให้เป็นหมอพื้นบ้านตั้งแต่ เม.ย. 2562 ต่อมา มิ.ย. 2562 มีการประกาศกระทรวงฉบับใหม่ ทำให้คุณสมบัติของนายเดชาหมดสภาพไป ซึ่งปัจจุบันมีหมอพื้นบ้านที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกันอีก 3,000 คน ทำให้ได้รับผลกระทบดังกล่าว ดังนั้น จะพิจารณาแก้ไขประกาศกระทรวงฉบับนี้ โดยให้เพิ่มเติมข้อความต่าง ๆ ให้เป็นหมอพื้นบ้านได้ ตามที่ได้รับการฝึกฝนมา จากนั้นขั้นตอนต่อไปจะได้หาวิธีการรับรองตำรับยาที่ผลิตมาจากสาร CBD ( cannabidiol) ผลักดันให้ผ่านคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะดำเนินการแก้ไขทันทีหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
“การแก้ไขประกาศกระทรวงอยู่ในอำนาจของรมว.สธ.อยู่แล้ว โดยหารือในเบื้องต้นจากที่ประชุมและทั้งสองฝ่าย สภาแพทย์แผนไทย ปลัด สธ. อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อยู่ในวิสัยทำได้และไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ ตามมา” รมว.สธ. กล่าว และว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2562 ได้รับการสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ผ่านทางเลขาธิการนายกรัฐมนตรีให้เตรียมการชี้แจงเรื่องการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ให้ดี ถือเป็นคำสั่งการแรกของนายกรัฐมนตรีมายัง สธ.
รมว.สธ. ยังกล่าวถึงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 25-26 ก.ค. 2562 ซึ่งคาดว่าจะมีการอภิปรายเกี่ยวกับกัญชาด้วยว่า อยู่ที่ความตั้งใจและเจตนารมณ์ ถ้าเราตอบได้ว่า ไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหาต่าง ๆ ไม่ได้ทำมาเพื่อเอื้อประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือธุรกิจใด ๆ แต่ทำเพื่อส่วนรวมของประเทศและชีวิตความเป็นอยู่สุขภาพที่ดีขึ้นของประชาชน หากทุกคนเข้าใจประโยชน์ของกัญชา เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุน
ด้านนายเดชา กล่าวว่า เดิมนั้นได้แจกจ่ายน้ำมันกัญชารักษาผู้ป่วยมากกว่า 10,000 คน และมีการบันทึกข้อมูลไว้ประมาณ 8,000 คน ยอมรับว่า ได้กระทำไปโดยพลการ เพราะตนเองไม่ได้เป็นหมอ จึงเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) บุกตรวจค้น ซึ่งช่วงนั้นประชาชนได้ออกมาปกป้อง รวมถึงนายอนุทินด้วย ต่อมาเมื่อพ้นข้อหาจึงได้รับการสนับสนุนให้เป็นหมอพื้นบ้านตามกฎหมายฉบับเก่า
ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ไม่รับรองคุณสมบัติหมอพื้นบ้านของตนเองตามระเบียบกระทรวงฉบับใหม่ ส่วนตำรับยาไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม นายอนุทินรับปากจะแก้ไข
ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยสมัครเข้ารับน้ำมันกัญชาประมาณ 40,000 คน แล้วพบว่าทยอยเสียชีวิตไป 1 คน/วัน ปัจจุบันเป็นจำนวน 60 คนแล้ว ซึ่งในช่วง 2-3 เดือนหลังจากนี้ ตนเองยังไม่ได้รับรองคุณสมบัติหมอพื้นบ้าน จะกลายเป็นช่องว่างได้ แต่ยืนยันจะไม่ทำผิดกฎหมายอีก เพราะนายอนุทินมีความเข้าใจและสนับสนุนเรื่องดังกล่าว แตกต่างจากรมว.สธ.คนก่อนหน้านี้
“ช่วงที่ไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการรักษาโรคคนไข้ สธ. จะรับไปดูแลรักษาก่อน โดยมีเงื่อนไขให้เป็นไปตามความสมัครใจ ของผู้ป่วย เช่น ต้องมีสูตรน้ำมันใกล้เคียงกับสูตรของตนเอง มีสถานพยาบาลที่ไว้วางใจ ซึ่งมีหลายแห่งให้เลือก โดยจะขอรับเป็นที่ปรึกษา ทำหน้าที่ประสานผู้ป่วยรับการรักษาในช่วงที่ยังแจกจ่ายไม่ได้” นายเดชา กล่าว .
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/