ราชสกุล ‘เทพหัสดิน’ มอบเงิน 5 แสนบาท ตั้งกองทุนช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อ ใช้ติดตามบังคับคดี ขอโซเซียลหยุดวิจารณ์เหมารวม ทำเสื่อมเสีย เหตุเป็นเรื่องส่วนตัว เรียกร้อง ‘แพรวา’ ออกมาขอโทษสังคมด้วยความจริงใจ
นายสุชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขานุการราชสกุลเทพหัสดิน
เหตุการณ์อุบัติเหตุบนทางด่วนโทลเวย์ น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถเก๋งเฉี่ยวชนรถตู้โดยสารสาธารณะ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เมื่อปี พ.ศ. 2553 ซึ่งคดีได้ถึงที่สุดแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297-308/2562 โดยพิพากษาในคดีระหว่างโจทก์ที่ 6 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เสร็จเด็ดขาดตามยอมสัญญาประนีประนอมยอม ฉบับลงวันที่ 20 เม.ย. 2561 และให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในแต่ละคดี รวมค่าสินไหมทดแทนที่ศาลฎีกากำหนดให้ทุกคดีแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 25,261,164 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันทำละเมิด เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น
นอกจากนี้ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562 โดยทนายความผู้รับผิดชอบสำนวนคดีได้ชี้แจงผลคำพิพากษาให้แก่โจทก์พร้อมดำเนินการส่งคำบังคับเพื่อให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลภายใน 30 วัน เรียบร้อยแล้วนั้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการชดใช้ใด ๆ ขณะที่ล่าสุด นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มารดาของน.ส.แพรวา ประกาศขายที่ดินมูลค่าร่วม 100 ล้านบาท เพื่อนำมามอบให้ครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมยืนยันไม่มีเจตนาดึงเรื่องให้ยืดเยื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 ก.ค. 2562 ที่สวนอาหารเพลิน ถ.วิภาวดีรังสิต นายสุชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขานุการราชสกุลเทพหัสดิน และนายณัฐพล ทองคำ ทนายประจำราชสกุลเทพหัสดิน แถลงข่าวกรณีราชสกุลเทพหัสดินถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมกรณี น.ส.แพรวา ไปในทางเสื่อมเสีย
นายณัฐพล เปิดเผยว่า ขออภัยเป็นอย่างสูงในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งสังคมอาจไม่สบายใจกรณีคนในราชสกุลก่อเหตุทำให้เกิดความสะเทือนใจกับสังคม ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานับแต่เกิดเหตุการณ์ ยืนยันผู้ใหญ่หลายท่านในราชสกุลได้ไถ่ถามไปยังครอบครัวของ น.ส.แพรวา เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การดำเนินคดี และการชดใช้ครอบครัวผู้เสียหาย
โดยครอบครัวของ น.ส.แพรวา แจ้งกลับมาหลายครั้งว่า กำลังดำเนินการอยู่ และยืนยันสามารถจัดการได้ ซึ่งผู้ใหญ่เข้าใจว่ามีการดำเนินการแล้ว เพราะครอบครัว น.ส.แพรวาไม่ได้แจ้งความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ 15 ก.ค. 2562 จึงทราบข่าวทางโทรทัศน์ว่า ผู้เสียหายยังไม่ได้รับการชดใช้ตามคำพิพากษา ทำให้ผู้ใหญ่ในราชสกุลร้อนใจ จึงมีการนัดหารือกันเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2562
ทนายประจำราชสกุลเทพหัสดิน กล่าวต่อถึงข้อสรุปจากการหารือว่า ในส่วนของคดีที่ผ่านมา ราชสกุลได้บอกกล่าวกับครอบครัว น.ส.แพรวา เสมอให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่เคยช่วยเหลือ หรือสนับสนุน เพื่อให้หลีกเลี่ยง หรือไม่ชำระชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใด พร้อมบอกเสมอว่าให้เคารพตามคำพิพากษาของศาล
“คดีเป็นเรื่องส่วนตัว อยากให้สังคมเข้าใจ ราชสกุลเทพหัสดินเป็นราชสกุลค่อนข้างใหญ่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและเพิ่งรับทราบในวันที่ออกข่าวพร้อมกับทุกท่าน”
นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ราชสกุลเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและเป็นประชาชนคนหนึ่งที่รู้สึกเสียใจกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะต้องสูญเสียบุคลากรสำคัญหลายคนของประเทศ ดังนั้นผู้ใหญ่ในราชสกุลจึงเห็นอกเห็นใจและเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น จึงรวบรวมเงินจำนวน 5 แสนบาท ตั้งเป็นกองทุนมอบให้ครอบครัวผู้เสียหาย นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการติดตามการบังคับคดีรับเงินชดใช้ตามคำพิพากษาของศาล อย่างไรก็ตาม ยืนยันเงินจำนวนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคดี แต่เป็นความตั้งใจของราชสกุลในฐานะส่วนหนึ่งของสังคมเท่านั้น
ส่วนประเด็นให้ น.ส.แพรวาออกมาขอโทษสังคมนั้น ทนายประจำราชสกุลเทพหัสดิน ระบุความจริงราชสกุลเคยติดต่อให้น.ส.แพรวาออกมาขอโทษต่อสังคมอย่างจริงใจไปบ้างแล้ว แต่อาจด้วยสภาพจิตใจและโอกาสไม่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม วันนี้เพื่อยืนยันเจตนารมณ์อย่างชัดเจนอีกครั้งของผู้ใหญ่ในราชสกุล เรียกร้องขอให้น.ส.แพรวา ออกมาขอโทษสังคมในสิ่งที่ตัวเองอาจผิดพลาดไปด้วยความจริงใจ เพื่อให้เกิดความสบายใจขึ้นในสังคม
นายณัฐพล ทองคำ ทนายประจำราชสกุลเทพหัสดิน
นายณัฐพล กล่าวต่อถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมกรณี น.ส.แพรวา กับราชสกุลไปในทางเสื่อมเสีย ยืนยันว่า มีการให้ข่าวออกไป โดยขอให้วิจารณ์ในเรื่องส่วนตัว อย่าเหมารวมทั้งราชสกุล เพราะทุกคนยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่สนับสนุนให้กระทำความผิดและหลบหนี ดังนั้น หากปล่อยให้วิจารณ์และแสดงความคิดเห็น โดยไม่บอกกล่าวไปบ้าง อาจเกินเลยไป จนทำให้ทั้งราชสกุลเสื่อมเสีย
“วันนี้โซเซียลอาจแสดงความคิดเห็นด้วยความรู้สึกเจ็บแค้น เสียใจ แต่วันหนึ่งทุกท่านจะลืม หากว่าสิ่งที่ปรากฎในโซเซียลยังตราตรึงในความรู้สึกของคนในครอบครัวว่า คนดี ๆ ถูกเหมารวมไม่น่าจะเกิดขึ้น” ทนายประจำราชสกุลเทพหัสดิน กล่าว และว่า อยากวอนขอสังคมในการแสดงความคิดเห็น ขอให้แยกแยะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ขณะที่ส่วนรวมไม่เกี่ยวข้องและไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายทางคดี
“ขอความกรุณาสำนักข่าวที่นำไปโพสต์ต่อหรือขยายข่าวต่อว่า มีการขู่ฟ้องคนวิจารณ์ กรณีน.ส.แพรวา ซึ่งไม่ใช่ความจริง จึงอยากให้สังคมเข้าใจ เพราะผู้ใหญ่ไม่เคยพูด และข่าวช่วงแรกที่นำเสนอระบุเพียงว่าให้แยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวกับส่วนรวม”
ทั้งนี้ ในวันนี้คุณแม่ของ น.ส.แพรวา ออกมาแสดงเจตนารมณ์นำทรัพย์สินของตนเองชำระหนี้ มองเป็นเรื่องน่ายินดีที่สุดสำหรับผู้เสียหาย แม้ว่าจะมีความยุ่งยากต่อจากนี้บ้าง แต่อย่างน้อยยืนยันแล้วว่า ผู้เสียหายจะได้รับการเยียวยาตามคำพิพากษาถึงที่สุด
เมื่อถามถึงโอกาสที่จะรวบรวมเงินในราชสกุลนำไปซื้อโฉนดที่ดินของครอบครัว น.ส.แพรวา ก่อนได้หรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นกระบวนการทางกฎหมายและเพิ่งรับทราบ ในความเป็นจริงแล้วกระบวนการนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ ผู้เสียหายมีสิทธินำชื่อเข้าไปใส่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิเลยก็ได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้มีการหาทางออกร่วมกัน ซึ่งเชื่อว่าจะมีทางออกที่ดี
ด้านนายสุชัย กล่าวว่า ราชสกุลเทพหัสดินมีสมาชิกเครือญาติประมาณ 900 คน โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง หลายคนมีฐานะไม่ร่ำรวย ทำงานเป็นข้าราชการ ค้าขายเล็กน้อย จึงไม่ใช่ราชสกุลร่ำรวย เลยรวบรวมเงินมาได้เพียง 5 แสนบาท พร้อมระบุราชสกุลไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาได้พยายามขอร้องให้ครอบครัว น.ส.แพรวา ชดใช้ทางกฎหมายให้ถูกต้อง และยืนยันว่า ยืนข้างผู้เสียหาย
ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่สนิทกับครอบครัวของ น.ส.แพรวา และเพิ่งเคยเจอ น.ส.แพรวา ตอนที่เข้ามาขอขมาทำให้ราชสกุลได้รับความเสื่อมเสีย .
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/