กกต. มีคำสั่งยุติเรื่อง ‘สมเดช นิลพันธุ์’ ส.ว. ปมถูกร้องเรียนเคยโดนคำพิพากษาศาล จ.นครปฐม สั่งคุก 2 ปี 6 เดือน รอลงอาญา 3 ปี ชี้เป็นเพียงผู้สนับสนุน มิใช่ตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำวินิจฉัยที่ 49/2562 กรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาทั่วประเทศ โดยก่อนประกาศการคัดเลือก กกต. ได้รับรายงานกรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏต่อ กกต. ว่า นายสมเดช นิลพันธุ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว. จ.นครปฐม กลุ่มที่ 3 ถูกกล่าวหาว่า กระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (12) ประกอบมาตรา 74 เนื่องจากนายสมเดช รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกเป็น ส.ว. เพราะเหตุเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้สมัคร
กกต. พิจารณารายงานการไต่สวน ตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้วเห็นว่า การที่นายสมเดช ถูกศาลจังหวัดนครปฐมพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 1611/2557 ลงวันที่ 18 มิ.ย. 2557 ว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 157 ประกอบมาตรา 86 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดซื้อ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น
การเป็นเพียงผู้สนับสนุนดังกล่าว จึงเป็นกรณีที่นายสมเดช มิได้มีตำแหน่งหน้าที่ราชการตามที่ได้มีคำพิพากษาดังกล่าว จึงไม่เป็นไปตามลักษณะต้องห้าม ข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่า นายสมเดช กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนตาม พ.ร.บ.ได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 14 (12) และมาตรา 74 ตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง (ดูเอกสารประกอบ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเดช ถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องเรียนต่อ กกต. ให้ตรวจสอบ กรณีถูกศาลจังหวัดนครปฐม พิพากษาคดีการจัดซื้อจัดจ้างที่ดิน นายสมเดชรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 13,000 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี โดยคดีถึงที่สุดแล้ว
ส่วนนายสมเดช นิลพันธ์ุ เคยให้สัมภาษณ์กรณีนี้ว่า เป็นหน้าที่ของผู้ร้องที่ต้องดำเนินการ ซึ่งตนพร้อมกับการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ตนฐานะ ส.ว. ที่มาจากการเลือกกันเองของสายจังหวัด และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมเป็นผู้เสนอชื่อตน ทั้งนี้ ก่อนการลงคะแนนเลือก กกต. เป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติของตนอย่างครบถ้วนแล้ว ดังนั้น จึงมั่นใจว่าไม่มีปัญหา อย่างไรก็ดี คดีที่นายศรีสุวรรณยื่นร้องต่อ กกต. ดังกล่าว เป็นเรื่องที่เกิดเมื่อปี 2557 ซึ่งผลของคดีดังกล่าวตนเคยไปให้ปากคำ และยอมรับว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช่การทุจริต เพราะเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้น สำหรับการตัดสินลงโทษไม่ใช่การให้ออกจากราชการแต่อย่างใด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/