เผยคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ยกฟ้อง 'จักรพงษ์ ขุนพลนาควาส' อดีตนายก อบต. ชุมตาบง นครสวรรค์ คดีกล่าวหาไม่ดําเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เอาผิดผู้รับจ้างที่ลักลอบขุดทรายในคลองสาธารณะถมที่บริเวณพื้นที่จ้างเหมา-อัยการสูงสุด ไม่รับเรื่องอุทธรณ์ให้ ป.ป.ช.
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ยกฟ้องนายจักรพงษ์ ขุนพลนาควาส อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชุมตาบง จังหวัดนครสวรรค์ ในคดีกล่าวหาไม่ดําเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดําเนินคดีกับผู้รับจ้างที่ลักลอบขุดทรายในคลองสาธารณะนําไปถมบริเวณพื้นที่ที่จ้างเหมา
ทั้งนี้ มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2558 ว่า นายจักรพงษ์ ขุนพลนาควาส มีความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
อย่างไรก็ดี ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2561 ว่า ยกฟ้องจำเลย
ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 มีมติเห็นชอบขอความอนุเคราะห์อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ต่อไป
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า สำหรับคดีนี้ อัยการสูงสุด ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงในขณะเกิดเหตุนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ที่ดินที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือเป็นที่สาธารณะหรือไม่ จะต้องดำเนินการตรวจสอบให้ได้ความชัดเจนก่อนว่า ที่เกิดเหตุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่อย่างไร ซึ่งต้องทำการไต่สวนข้อเท็จจริง ในชั้นพนักงานไต่สวนครั้งที่ 1 และในชั้นไต่สวนของ คณะพนักงานไต่สวนเพิ่มเติมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพิ่มเติม โดยมีการรวบรวมพยานหลักฐานจากส่วนราชการต่างๆ และต้องให้พยานผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครสวรรค์ ดำเนินการตรวจสอบพิกัดและตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศก่อน แล้วจึงทราบว่าที่เกิดเหตุเป็นคลองสาธารณะในที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ดังนั้น ขณะเกิดเหตุจำเลยจึงอาจไม่รู้ข้อเท็จจริงได้ว่า มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อีกทั้งไม่ได้มีการกระทำความผิดต่อหน้าจำเลย จำเลยจึงไม่อาจทราบได้ว่า มีการลักลอบขุดทรายในที่ดินที่เกิดเหตุ และการที่ผู้กล่าวหาอ้างว่า ได้ทำหนังสือถึงจำเลยเพื่อให้จำเลยแจ้งความดำเนินคดี กับร้าน ข. (อักษรย่อ) และนาง ล. ก็ไม่มีหลักฐานการรับส่งหนังสือและไม่มีสำเนาหรือคู่ฉบับ
อีกทั้งยังได้ความว่า จ่าสิบตำรวจ ก. ได้แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว แม้เป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่ามีการกระทำความผิดในที่เกิดเหตุ ก็เป็นคำกล่าวโทษตามกฎหมายที่เจ้าพนักงานตำรวจสามารถทำการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในคดีนี้แล้ว จำเลยจึงไม่จำเป็นต้องร้องทุกข์หรือกล่าวโทษในเรื่องดังกล่าวนี้ซ้ำอีก ซึ่งการที่จำเลยไม่ได้ดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับร้าน ข. และนาง ล. จึงยังฟังไม่ได้ว่า จำเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และพฤติการณ์ในคดียังไม่พอรับฟังว่า ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้หนึ่งผู้ใด
ที่ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษายกฟ้องจำเลยจึงชอบแล้ว จึงไม่อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
คุก 35 ปี ! อดีตผอ.รร.บ้านมะรือโบตก นราธิวาส คดีทุจริตเบิกถอนเงินบัญชีฝากโรงเรียน
คุก 2 ปี ปรับ1หมื่น! อดีตจนท.คณะแพทยศาสตร์ฯ มหิดล เบียดบังโน้ตบุ๊กหลวงไปใช้ปย.ส่วนตน
ศาลอุทธรณ์ ยืนคุก35 ปี อดีตปลัดเทศบาลป่าอ้อดอนชัย เรียกรับเงินเปอร์เซ็นต์ร้านค้า-คู่สัญญา
คุก 2 ปี! อดีตรองเลขาฯ กสม. นำหนังสือโดนแจ้งล้มละลายออกจากระบบ เลี่ยงถูกอายัดเงินเดือน
ศาลอุทธรณ์ ยืนคุก10 ปี อัยการจว. เรียกรับเงินผู้ต้องหา-เมีย ช่วยสั่งคดี สมัยอยู่อุบลฯ