เผยคำพิพากษา 'ศาลอุทธรณ์' ตัดสินยืนตามศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง จำคุก 10 ปี 'ฐิติวัชร ศิริพร' อัยการจังหวัดประจํากรม สํานักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีแพ่ง กรุงเทพใต้ 4 เรียกรับเงินจากผู้ต้องหา-เมีย ช่วยเหลือในการสั่งคดี ขณะดํารงอยู่อุบลฯ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2561 พิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบกลาง ตัดสินจำคุก 10 ปี นายฐิติวัชร ศิริพร อัยการจังหวัดประจํากรม สํานักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีแพ่ง กรุงเทพใต้ 4 (พระโขนง) เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งอัยการจังหวัดประจํากรม สํานักงานอัยการจังหวัด อุบลราชธานี เรียกรับเงินจากผู้ต้องหา และภรรยา ผู้ต้องหา เพื่อช่วยเหลือในการสั่งคดี รวม 2 คดี ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2558 ว่า นายฐิติวัชร มีความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 201
โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบกลาง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 ว่า จําเลยผิดตามมาตรา 201 การกระทําของจําเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามม. 91 จําคุก กระทงละ 5 ปี รวม 2 กระทง รวมจําคุก 10 ปี
ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2562 มีมติเห็นชอบตามความเห็นของอัยการสูงสูด ที่จะไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/