‘เปรมชัย’ ตีหลักทรัพย์ 2 แสนได้ประกันตัว! ศาลคดีทุจริตฯภาค 7 พิพากษาคุก 1 ปี ติดสินบน ‘วิเชียร ชิณวงษ์’ คำพูดพยานมัด “มีหนทางช่วยเหลือกันได้ไหม ถ้าปล่อยพวกผมอยากได้อะไร จะหามาให้” นับโทษต่อจากคดีครอบครองซากสัตว์ เตรียมอุทธรณ์สู้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 นัดฟังคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1 และนายยงค์ โดดเครือ เป็นจำเลยที่ 2 ข้อหาร่วมกันให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 83 กรณีเสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน นายยงค์พูดลักษณะพยายามจะติดสินบนเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ปล่อยตัวนายเปรมชัยและพวก จำเลยทั้ง 2 รายให้การปฏิเสธ
ศาลพิพากษาว่า นายเปรมชัย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จำคุก 1 ปี ให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีครอบครองซากสัตว์ที่ถูกพิพากษาจำคุก 16 เดือน ของศาลจังหวัดทองผาภูมิ
ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายเปรมชัย ได้ยื่นหลักทรัพย์ของประกันตัวเป็นเงิน 2 แสนบาท และศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ขณะที่นายเปรมชัย ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า ไม่สบาย ขาเจ็บ สุขภาพไม่ดีแต่จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป.
สำหรับคดีนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เป็นประจักษ์พยานเบิกความยืนยันข้อความที่จำเลยที่ 1 พูดต่อนายวิเชียรว่า “จะให้นายนพดล พฤกษะวัน มาเคลียร์ มีหนทางช่วยเหลือกันได้ไหม มีเงื่อนไขอะไรไหม ถ้าปล่อยพวกผมอยากได้อะไร ผมจะหามาให้” โดยมีพยานโจทก์ปากอื่นเบิกความสนับสนุนว่าจำเลยที่ 1 พูดข้อความดังกล่าวต่อนายวิเชียร
เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์จำเลยที่ 1 พูดต่อนายวิเชียรภายหลังที่ถูกจับขณะที่มีการสอบถามข้อเท็จจริงภายในอาคารนิทรรศการและศูนย์บริการของสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่ควบคุมตัวจำเลยที่ 1 กับพวกแล้ว เห็นว่า เป็นสถานที่ไม่กว้าง ไม่มีเสียงแวดล้อมอื่นใดรบกวน การพูดในขณะที่ถูกควบคุมตัวอยู่นั้น จำเลยที่ 1 และนายวิเชียร กับพยานโจทก์ ย่อมอยู่ใกล้กันมีโอกาสได้ยินข้อความที่พูด ทั้งข้อความดังกล่าวเป็นข้อความสั้น ๆ ไม่ยืดยาวย่อมอยู่ในวิสัยที่น่าจะจดจำได้
ประกอบกับพฤติการณ์จำเลยที่ 1 พูดหลังจากถูกจับ แม้ข้อความจะไม่ได้ระบุว่า จะให้อะไรโดยตรงก็ตาม แต่ก็น่าจะสื่อได้ว่า จำเลยที่ 1 ต้องการจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเป็นการตอบแทนเพื่อให้ปล่อยตัวจำเลยที่ 1 ไป การกระทำของจำเลยที่ 1 นั้น มีลักษณะเป็นการขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ อันมิชอบด้วยอันเป็นความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ตามฟ้องโจทก์
ส่วนจำเลยที่ 2 ได้พูดคุยกับพยานโจทก์ 2 คน คือ นายจิตติ สวัสดิ์สาย นายศุภกิต พรหมมี เป็นการสนทนาพูดคุยในระหว่างกันเองโดยลำพัง ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ร่วมรู้เห็นด้วยแต่ประการใด จึงฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำ อันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตามฟ้องโจทก์
พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จำคุก 1 ปี ให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.63/2562 (คดีครอบครองซากสัตว์ จำคุก 16 ปี) ของศาลจังหวัดทองผาภูมิ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาว่า นายเปรมชัย มีความผิดตามข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 16 เดือน ยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) (อ่านประกอบ : คุก‘เปรมชัย’16 เดือนครอบครองซากสัตว์ ยกฟ้องมีซากเสือดำ-ศาลให้ประกันด้วยเงินสด 4 แสน)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายเปรมชัย จาก BBC Thai