'อนุทิน' เผย ครม. เห็นชอบ ส่งความเห็นรัฐบาล ให้ 'กกต.' พิจารณา ทำ 'ประชามติ' แก้รัฐธรรมนูญ - ถอนการทำประชามติยกเลิก 'MOU43-MOU44' ไปก่อน เหตุ ‘กฤษฎีกา’ ท้วงติง ชี้ มีผลผูกพันรัฐบาลหน้า
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 16 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในหลายประเด็น
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายกฯกล่าวว่า ส่งไปให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมความเห็นของครม.และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งทุกอย่างจะอยู่ที่การพิจารณาของ กกต. ส่วนที่มีการกังวลว่าจะพิจารณาไม่ทันกำหนด 60 วันที่จะต้องจัดให้มีการทำประชามติตามที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ 2) ระบุนั้น นายกฯกล่าวว่า ได้ทำตามกฎระเบียบทุกอย่างและส่งให้ กกต.เป็นผู้พิจารณา
ส่วนการทำประชามติเพื่อยกเลิกบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา 2543 (MOU 2543) นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นในที่ประชุมครม.ว่า การยกเลิก MOU ฉบับดังกล่าว อาจจะมีผลผูกพันกับรัฐบาลชุดถัดไป ดังนั้น จึงเห็นว่า ควรให้ถอนเรื่องออกไปก่อน และทางเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา จะทำหนังสือชี้แจงภายหลัง
@ คาดประกาศพ.ร.ฎ.ประชามติ ภายในสิ้นปีนี้
ขณะที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติเห็นชอบการยื่นคำถามประชามติ ต่อแนวทางของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อรัฐสภามีความเห็นถึงรัฐบาล เรื่องการขอให้รัฐบาลตั้งคำถามประชามติต่อประชาชน ว่ามีความต้องการให้มีการจัดการรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีการพิจารณาข้อกฎหมาย โดยมีความเห็น 2 แนวทาง โดยจะถามประชาชนด้วยคำถามที่สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันความผิดพลาด คือ ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า แนวทางที่ 1 เสนอโดยความเห็นชอบของครม. เนื่องจากเรื่องนี้เป็นนโยบายที่แถลงไว้และมีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าการใช้ช่องทางที่รัฐบาลเสนอจะสามารถ ปลดล็อกในเรื่องระยะเวลา อีกช่องทาง คือ รัฐบาลเสนอโดยความเห็นชอบของรัฐสภา โดยทั้งสองแนวทางต้องเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาต่อไป
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า โดยรัฐบาลมีความเห็นไปว่า ต้องการให้การออกเสียงประชามติเป็นในวันเดียวกันกับการเลือกตั้ง เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ต้องรอความเห็นจาก กกต. อีกครั้ง หาก กกต. ไม่ขัดข้อง คาดว่าจะจะประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ในราชกิจจานุเบกษาภายในสิ้นปีนี้
@ 'กฤษฎีกา' ค้าน ประชามติยกเลิก MOU43-MOU44
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของการทำประชามติยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ที่นำเสนอแนวทางในการยกเลิก MOU 43 และ 44 ในการทำประชามติ
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า นายบวรศักดิ์รายงานว่า จากการศึกษาของคณะทำงานและคณะกรรมาธิการเห็นว่า MOU 43 ยังคงมีผลในการบังคับใช้อยู่ อาจจะใช้วิธีการปรับปรุงแทน แต่ MOU 44 ซึ่งกำหนดระยะเวลาการจัดการประชุมครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ห่างกัน 20 ปี ในทางปฏิบัติไม่มีผลบังคับใช้ จึงขอทำประชามติยกเลิก MOU 44
"อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวจะมีผลผูกพันไปถึงรัฐบาลหน้า และไม่ได้มีประเด็นที่มีเจตจำนงหรือมีคำยืนยันจากรัฐสภา ในส่วนของการทำประชามติในการยกเลิก MOU 43 MOU 44 จึง ไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งทางกฤษฎีกาและนายบวรศักดิ์ จะมีการแถลงรายละเอียดในภายหลังต่อไป"นายสิริพงศ์กล่าว
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 