
นายกฯโยนถามผู้ว่าฯกกท. กรณีซื้อลิขสิทธิ์โมโตจีพี 3,997 ล้านบาท ชี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลพลอยได้เกิดกับเศรษฐกิจ ปัดเอื้อประโยชน์ ‘เนวิน’ ชี้แม้เป็นเจ้าของสนาม แต่จัดงานทุกครั้งก็ขาดทุน ยืนยันจัดมาตั้งแต่สมัยพล.อ.ประยุทธ์-เศรษฐา-แพทองธารแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2568 มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอให้ประเทศไทยเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโต จีพี ประจำปี 2570-2574 (5 ปี) ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันฯ จำนวน 3,997.86 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าลิขสิทธิ์ (หลังจากหักรายรับ) ค่าภาษีที่เกี่ยวข้องและค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2568 ถึงประเด็นดังกล่าว
ในที่แรก นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ โดยให้เหตุผลเป็นเรื่องเก่ามา 2 อาทิตย์แล้ว ตอนนี้มีประเด็นอื่นที่ต้องตอบคำถามมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง โดยถามว่า ทำไมค่าลิขสิทธิ์ในการจัดการแข่งขันถึงแพงกว่าครั้งที่ผ่านๆมา 7-8 เท่า นายกรัฐมนตรีตอบว่า ขอให้ไปถามนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพราะเรื่องนี้หน่วยงานที่นำเสนอคือ กกท. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีประเด็นของการกระตุ้นเศรษฐกิจ การส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงการทำให้คนมาสนใจมากขึ้น
เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ใช่หรือไม่ นายอนุทินสวนทันทีว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แต่นายเนวินเป็นเจ้าของสนามที่จัดการแข่งขัน นายอนุทินจึงชี้แจงว่า เท่าที่ทราบทางสนามก็มีสัญญาอะไรกันอยู่ และการจัดงานแต่ละครั้งก็ขาดทุนมาโดยตลอด
ส่วนการที่รัฐบาลชุดที่แล้วอนุมัติการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือ ฟอร์มูลาวัน กับ เทศกาลดนตรีทูมอร์โรว์แลนด์ รัฐบาลนี้จะสานต่อหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า อยู่ที่ความเหมาะสม ก่อนย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า โมโตจีพี ค่าลิขสิทธิ์เท่าไหร่ 4,000 ล้านบาทใช่ไหม แล้วการแข่งขัน F1 เท่าไหร่? 40,000 ล้านบาท ใช่ไหม ก็ไปถาม F1 แล้วกัน และสิ่งไหนที่ทำได้เลยและมีความพร้อมอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า แล้วทำไมต้องอนุมัติในรัฐบาลนี้ ทำไมไม่รอรัฐบาลชุดถัดไป นายอนุทินกล่าวว่า สิ่งนี้ได้รับการอนุมัติมาตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแล้ว ขอสื่ออย่ามาถามแบบนี้ พอถามแบบนี้เหมือนมาหาเรื่องเลย แต่ไม่ได้หาเรื่องผมนะ การถามแบบนี้จะทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เรื่องนี้เริ่มมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลคสช.ด้วยซ้ำ ปีแรกพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเปิดคนไปเปิดงานด้วยซ้ำ เรื่อยมาจนถึงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะอธิบายประชาชนได้หรือไม่ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ ของคนใดคนหนึ่ง นายอนุทิน กล่าวว่า ประโยชน์คือคนๆ นั้นต้องได้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด ทุกอย่างไปรวมอยู่ตรงนั้นหมด แต่เท่าที่ทราบก็ต้องใช้สนามตามข้อตกลง เพราะ MotoGP จะไปแข่ง ที่สนามซุปเปอร์ไฮเวย์ ก็ไม่ได้ ซึ่งจังหวัดอื่นมีสนามแบบนี้ก็ต้องมีการนำเสนอ ข้อเสนอที่ดีที่สุดแล้วไปทำที่นั่น แต่ทุกปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทราบว่า มีคุณค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 4,000 ล้านบาท/ปี ยังไม่รวมเรื่องการท่องเที่ยว และผลพลอยได้ของจังหวัดข้างทาง ซึ่งมีผลพลอยได้ไปถึงจังหวัดสุรินทร์ นครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งโรงแรมและห้องพักก็เต็มหมดในช่วงระหว่างการแข่งขัน รวมถึงเรื่องการค้าขาย ที่ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งก็เห็นว่ามีความคึกคักและก็ได้รับรายงานว่ามีความคุ้มค่ากับการที่รัฐบาลได้โปรโมทกีฬาประเภทนี้ ซึ่งทำมาหลายรอบแล้ว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา