
ป.ป.ช. ประสานตร.บุกจับกุมตัว 'สาธิต ป่าหญ้า' ผู้ต้องหาคดีสนับสนุน อดีตนายก อบต.สะแกซำ บุรีรัมย์ ทุจริตโครงการจัดทำธงเฉลิมพระเกียรติ แพงเกินจริง 64,000 บาท หลังสืบทราบหลบหนีมาซุกตัวอยู่ขอนแก่น ควบคุมตัวทำบันทึกจับกุมส่งอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 3 ฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ข่าวเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น เข้าจับกุมตัว นายสาธิต ป่าหญ้า ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่ จ.30/2568 ฉบับลงวันที่ 27 สิงหาคม 2568 กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในคดีที่ นายเรืองรัมย์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สะแกซำ จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก ทุจริตโครงการจ้างเหมาจัดทำธงญี่ปุ่นเฉลิมพระเกียรติ ปี 2559 จำนวน 80 ชุด ในราคาสูงเกินจริง เป็นจำนวนเงิน จำนวน 64,000 บาท ทำให้ อบต.สะแกซำ ได้รับความเสียหาย
โดยนายสาธิต ผู้ถูกกล่าวหา ได้เข้ามาเป็นคู่สัญญากับอบต. สะแกซำ หน่วยงานของรัฐและได้สนับสนุนนายเรืองรัมย์ กับพวก เจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการทุจริตโครงการดังกล่าว
จากการสืบสวนทราบว่า นายสาธิต ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลสวนหม่อน อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวและได้เฝ้าคอย จนได้พบเห็นบุคคลคล้ายกับบุคคลตามหมายจับ จึงได้วางแผนการเข้าจับกุมและเมื่อพบเห็นชายลักษณะคล้ายนายสาธิตบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัว และหมายจับดังกล่าวให้นายสาธิต ตรวจสอบ


จากการสอบถามบุคคลดังกล่าวยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบ พร้อมควบคุมตัวนายสาธิต มาจัดทำบันทึกการจับกุม ที่สถานีตำรวจภูธรมัญจาคีรี จากนั้นเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวเพื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ดี ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา