
สื่อ The Edge จากมาเลเซียเผยรายชื่อชาวมาเลเซียบิ๊กลอต นั่งบริหารธนาคารปรินซ์ เครือข่าย Prince Group พบหลายคนมีประวัตินั่งบริหารธนาคารยักษ์ใหญ่ พบมีคนเป็นถึงอดีตผู้ว่าแบงค์ชาตินั่งบริหารธนาคารปรินซ์ด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวการดำเนินการกลุ่มบริษัทปรินซ์ กรุ๊ป ในต่าางประเทศ อ้างอิงข่าวจากสำนักข่าวเดอะเอดจ์ของมาเลเซียว่า
นอกจากนายตัน ศรี มูฮัมหมัด อิบราฮิม อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย ซึ่งดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของธนาคาร Prince Bank plc ซึ่งมีฐานอยู่ในกัมพูชา ซึ่งเชื่อมโยงกับปรินซ์ กรุ๊ป ซึ่งเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม กลุ่มบริษัทนี้ถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าดำเนินการเครือข่ายฉ้อโกงทางไซเบอร์ทั่วโลกแล้ว
ยังมีชาวมาเลเซียอีกคนหนึ่งที่อยู่ในคณะกรรมการบริหารด้วย
รายงานประจำปี 2567 ของธนาคารปรินซ์แบงก์ระบุว่านาย ลูอิ ก๊ก ซูน เป็นซีอีโอของธนาคาร ปรินซ์เคยดำรงตำแหน่งที่ธนาคารโอซีบีซี มาเลเซีย ธนาคารอีออน มาเลเซีย ซึ่งธนาคารฮงเหลียงเข้าซื้อกิจการเหล่านี้ในปี 2554 และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่น่าสังเกตคือ เขาได้ลาออกจากตำแหน่งที่ธนาคารปรินซ์แบงก์เมื่อวันวันที่ 22 ตุลาคม ด้วยเหตุผลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอปรินซ์ แบงค์เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567
ขณะเดียวกัน นายลิออง ไค ซิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของธนาคารปรินซ์แบงก์ เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินในกลุ่มเมย์แบงก์มาก่อน ตามรายงานประจำปี ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารปรินซ์แบงก์คนอื่นๆ ที่เป็นชาวมาเลเซีย ได้แก่นาย โงว อี แวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลและการสื่อสาร, นายคู ฮุน คิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ, นายอึง ยก ชิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารความเสี่ยง และนายลี ค็อก เส็ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดจำหน่าย
โดยส่วนใหญ่เคยทำงานกับธนาคารมาเลเซียตลอดอาชีพการงาน ได้แก่ธนาคาร แอมแบงก์, อีออนแบงก์, เมย์แบงก์ และฮง เหลียงแบงก์
ทั้งบุคคลเหล่านี้และธนาคารไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับอาชญากรรมใดๆ แต่แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ระบุว่ารายได้จากอาชญากรรมที่เกิดจากสิ่งที่กระทรวงการคลังเรียกว่าองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติกลุ่มปรินซ์ (Prince Group TCO) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่มีฐานอยู่ในกัมพูชา นำโดยนายเฉิน จื้อ ชาวกัมพูชา “มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการร่วมทุนทางธุรกิจบังหน้าที่ถูกกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านนิติบุคคลที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Prince Group TCO” รวมถึง Prince Bank ด้วย
โดยสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเครือข่ายบังคับใช้กฎหมายอาชญากรรมทางการเงิน (FinCEN) ซึ่งทำงานร่วมกับสำนักงานต่างประเทศ เครือจักรภพ และการพัฒนาของสหราชอาณาจักร (FCDO) ได้ดำเนินการเสริมกันด้วยการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร Prince Group TCO และตัดขาด Huione Group กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินในกัมพูชา ออกจากระบบการเงินของสหรัฐฯ Huione Group ถูกกล่าวหาว่า "ฟอกเงินจากการหลอกลวงและขโมยเงินเสมือนในนามของผู้กระทำความผิดทางไซเบอร์"

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา