
‘มัลลิกา’ ขอไม่ตัดสินใจกรณีโอนสนามบินภูมิภาค 3 แห่ง ‘กระบี่-อุดรธานี-บุรีรัมย์’ ให้ทอท.บริหารหรือไม่ ชี้ควรเป็นหน้าที่รัฐบาลชุดต่อไป ด้าน ทย. เตรียมแผนปรับปรุงสนามบินภูมิภาคประเดิม ‘ชุมพร-ระนอง’ ปรับปรุงรันเวย์รับโปรเจ็กต์แลนด์บริดจ์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 31 ตุลาคม 2568 นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการประชุมมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ได้เน้นการปรับปรุงภาพลักษณ์ภายในอาคารผู้โดยสารให้มีความสะอาด สว่าง สวยงาม อยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ในรูปแบบอัตโนมัติมาใช้อย่างเต็มรูปแบบในท่าอากาศยานที่มีความพร้อม และให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อการเดินทางกับการขนส่งภาคพื้น
นอกจากนี้ยังเร่งขับเคลื่อนโครงการลงทุนที่สำคัญ รวมถึงมอบหมายให้ ทย. พิจารณาต่อเติมความยาวทางวิ่งท่าอากาศยานที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการท่าอากาศยาน สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้าในพื้นที่และภูมิภาคใกล้เคียง โดยเฉพาะท่าอากาศยานชุมพร และท่าอากาศยานระนอง เพื่อเตรียมรองรับโครงการแลนด์บริดจ์
@ให้รัฐบาลหน้าตัดสินใจ โอนสนามบิน
ส่วนนโยบายการโอนสนามบินภูมิภาค 3 แห่ง ได้แก่ กระบี่, บุรีรัมย์ และอุดรธานีให้บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) บริหารนั้น นางสาวมัลลิการะบุว่า แม้การโอนให้ทอท.บริหารจะเป็นแนวคิดที่ดี แต่ก็มีข้อกงัวลว่า หากโอนให้ทอท.บริหารจริงๆ ต้นทุนและการให้บริการต่างๆจะต้องใช้อัตราค่าธรรมเนียมของ ทอท. ซึ่งมีราคาสูงกว่า ทย.มาก และน่าจะเป็นการโยนภาระให้ผู้โดยสารมากจนเกินไป ดังนั้น จึงให้ ทย.ดูแลไปก่อน ส่วนการทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เกี่ยวข้อง ในวาระรัฐบาลนี้อาจจะยังไม่เสนอให้ทบทวน น่าจะต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่มาพิจารณา
ด้านนายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายเพื่อดำเนินการปรับปรุงภาพลักษณ์ท่าอากาศยาน โดยการนำเสนออัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการตกแต่งภายในอาคารที่พักผู้โดยสารนำร่อง 8 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง อุบลราชธานี ขอนแก่น กระบี่ อุดรธานี และบุรีรัมย์ ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณในปี พ.ศ. 2569 แล้ว
นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ซึ่งปัจจุบันติดตั้งแล้วทั้งหมด 7 ท่าอากาศยาน ได้แก่ท่าอากาศยานกระบี่ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช พิษณุโลก และตรัง ซึ่งในอนาคตกรมท่าอากาศยานมีแผนนำระบบ Biometrics มาใช้สำหรับการยืนยันตัวตน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรให้ดูทันสมัย
ในส่วนของการขยายความยาวทางวิ่ง อธิบดีทย.กล่าวว่า ได้รับงบประมาณในการดำเนินการขยายความยาวทางวิ่ง ดังนี้ ท่าอากาศยานที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ได้แก่ ท่าอากาศยานชุมพร จากเดิม
45 x 2,100 เมตร เป็น 45 x 2,990 เมตร งบประมาณ 1,500 ล้านบาท และท่าอากาศยานแพร่ จากเดิม 30 x 1,500 เมตร เป็น 45 x 2,100 เมตร งบประมาณ 400 ล้านบาท
ส่วนท่าอากาศยานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ จากเดิม 45 x 2,100 เมตร เป็น 45 x 2,900 เมตร งบประมาณ 949.556 ล้านบาท ท่าอากาศยานตรัง จากเดิม 45 x 2,300 เมตร เป็น 45 x 2,990 เมตร งบประมาณ 1,775.7213 ล้านบาท และท่าอากาศยานระนอง จากเดิม 45 x 2,000 เมตร เป็น 45 x 2,400 เมตร งบประมาณ 592.085 ล้านบาท

นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน
อ่านประกอบ :

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา