
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลง ประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 รอบ - เดินหน้าประชามติรอบแรก พร้อมเลือกตั้ง สส.ทั่วไป หลังยุบสภาภายใน 4 เดือน เรียกร้อง พรรคภูมิใจไทย รวบรวมเสียง สส.รัฐบาล ยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ-ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามข้อตกลง ต่อรัฐสภาไม่เกินสัปดาห์หน้า-เปิดประชุมรัฐสภาภายในเดือนกันยายน ไม่ต้องรอแถลงนโยบาย มั่นใจไม่ปิดประตูตั้ง สสร.จากการเลือกตั้ง ด้าน อนุทิน ขอดูรายละเอียดก่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 10 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) แถลงข่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 1 การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติ 3 ครั้ง ซึ่งการออกเสียงประชามติครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 อาจรวมเป็นครั้งเดียวกันได้ และการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติ หมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐธรรมญด้วย โดยรัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง

อ่านประกอบ : ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 1 ทำประชามติแก้ไขรธน. 3 ครั้ง
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคประชาชนยืนยันว่า เป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหาประเทศควบคู่ไปกับการฟื้นฟูความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ คือ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ถูกระบุไว้อย่างชัดเจนในข้อตกลง MOA ที่พรรคประชาชนได้จัดทำกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.)
“วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้อย่างชัดเจนแล้ว ว่ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องมีการทำประชามติทั้งหมด 2 รอบ ได้แก่ ประชามติรอบที่ 1 เพื่อสอบถามประชาชนพร้อมกันใน 2 ประเด็น ประเด็นแรก เห็นด้วยหรือไม่ ว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประเด็นที่สอง เห็นด้วยหรือไม่ กับวิธีการและเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ที่รัฐสภาเห็นชอบ”นายณัฐพงษ์กล่าว
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า สำหรับการทำประชามติรอบที่ 2 เพื่อสอบถามประชาชนว่า เห็นด้วยหรือไม่ กับร่างรัฐธรรมูนนูญฉบับใหม่
“ดังนั้น หลังจากนี้ พรรคประชาชนเห็นว่าเราควรเดินหน้าสู่การจัดทำประชามติรอบที่ 1 พร้อมกับการเลือกตั้งสส.ทั่วไปที่จะเกิดขึ้นจากการยุบสภาภายใน 4 เดือน นับจากรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งจะกระทำการได้หลังจากที่รัฐสภาพิจารณาและให้ความเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 เพื่อเพิ่มกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว”นายณัฐพงษ์กล่าว
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ดังนั้น พรรคประชาชนจึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ และเพื่อน สส.ให้มีการเร่งดำเนินการดังต่อไปนี้
1. สส. จากแต่ละพรรคการเมืองควรยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 เข้าสู่รัฐสภาโดยเร็ว ซึ่งไม่ควรเกินสัปดาห์หน้า เพื่อให้สามารถดำเนินการจัดทำประชามติรอบที่ 1 ได้ทันพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นจากการยุบสภาภายใน 4 เดือน ณ ปัจจุบัน ทาง สส. พรรคประชาชนและ สส. พรรคเพื่อไทยได้ยื่นร่างต่อประธานรัฐสภาและถูกบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมรัฐสภามาก่อนหน้านี้แล้ว
“ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ควรพิจารณารวบรวมเสียง สส. รัฐบาล เพื่อยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ของตนเองเข้าสู่รัฐสภาโดยเร็ว ซึ่งควรมีเนื้อหาที่ให้มีสสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง ตามข้อตกลง MOA เพื่อเป็นการส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายตามข้อตกลง MOA”นายณัฐพงษ์กล่าว
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง แต่เราเห็นว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวอาจยังไม่ได้ปิดประตูต่อการมีสสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง เนื่องจากรัฐสภาสามารถออกแบบกลไกให้ สสร. ส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ สสร. จัดทำมาที่รัฐสภา ก่อนส่งไปทำประชามติกับประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูรายละเอียดในคำวินิจฉัยฉบับเต็มต่อไป

2. สส. จากแต่ละพรรคการเมืองควรร่วมกันผลักดันให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ในวาระที่ 1 ภายในเดือนกันยายน โดยไม่จำเป็นต้องรอการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เนื่องจากเป็นกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารโดยตรง
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ที่จะทำให้เป้าหมายในการจัดทำประชามติรอบที่ 1 พร้อมกับการเลือกตั้ง สส. ทั่วไปที่จะเกิดขึ้นจากการยุบสภาภายใน 4 เดือน เป็นจริงได้
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า สุดท้าย พรรคประชาชนยืนยันว่า เราจะทำหน้าที่เต็มที่ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน เพื่อดำเนินการตรวจสอบ เสนอแนะ และผลักดันรัฐบาลใหม่ ให้บริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชน และเดินหน้าสู่การปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และยุบสภาภายใน 4 เดือน ตามที่ได้สัญญากับพรรคประชาชนไว้ในข้อตกลง MOA
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาชน กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ 2 หรือ 3 ครั้งว่าจะต้องปรึกษาพรรคประชาชนก่อนหรือไม่ ว่า ต้องปรึกษากับสมาชิกรัฐสภาว่ามีความเห็นอย่างไร ขณะนี้พึ่งได้รับข้อมูลดังกล่าวจากข่าวศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่อ่านรายละเอียด ดังนั้น ขออ่านรายละเอียดและสอบถามข้อมูลก่อน
เมื่อถามว่าระยะเวลา 4 เดือนจะเป็นเงื่อนไขให้ยืดเวลาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จตามที่ตกลงไว้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน
เมื่อถามว่าในการประชุมครม.นัดแรกจะตั้งไข่เรื่องทำประชามติเลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกอย่างมีไทม์ไลน์ของมันอยู่แล้ว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา