
ศุภชัย ใจสมุทร ฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลดุสิต ให้ดำเนินคดี ภูมิธรรม เวชยชัย ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 - สุรทิน พิจารณ์ สส. พรรคประชาธิปไตยใหม่ ร้องสอบสวนกลาง แจ้งเอาผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ชี้ ไม่มีอำนาจ อ้าง ปกป้องสถาบัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 3 กันยายน 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายสุรทิน พิจารณ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) พร้อมด้วย นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อแจ้งความเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
นายไทกร กล่าวว่า การที่นายภูมิธรรม พยายามยื่นทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภา ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร เนื่องจากตัวนายภูมิธรรมนั้น ไม่มีอำนาจหน้าที่ หรือ สิทธิ์ที่สามารถทำได้ อีกทั้งการกระทำของนายภูมิธรรม ยังส่อเจตนาดึงสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ ในวันนี้ในฐานะประชาชนคนหนึ่งจึงต้องออกมาเคลื่อนไหว ด้วยการแจ้งความดำเนินคดีกับนายภูมิธรรม เพื่อเป็นการปกป้องสถาบัน
ขณะเดียวกัน ที่ สน.ดุสิต นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลดุสิต เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายภูมิธรรม นข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2–3 ก.ย.ที่ผ่านมา นายภูมิธรรมในฐานะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสถานการณ์การเมืองว่า ขณะนี้ระบบประชาธิปไตยไม่เป็นไปตามครรลอง หลังพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ตกลงร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคประชาชนโหวตสนับสนุนแต่ไม่เข้าร่วมรัฐบาล ทำให้เกิดสภาพ 3 กลุ่มทางการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และพรรคประชาชนมีบทบาททั้งใน และนอกรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นายศุภชัย กล่าวว่า การแก้ปัญหาความสับสนอลหม่านในบ้านเมือง ควรคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ แต่เรื่องดังกล่าวเป็นพระราชอำนาจ จึงได้ตัดสินใจยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา และยืนยันว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
นายศุภชัย กล่าวว่า เห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล เคยมีความเห็นว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจยื่นพ.ร.ฎ.ยุบสภาได้ การกระทำดังกล่าวจึงอาจก่อให้เกิดความไม่เหมาะสม และระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
นายศุภชัย จึงยื่นร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายภูมิธรรมในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมขอให้ขยายผลดำเนินคดีกับผู้มีส่วนร่วมกระทำผิดด้วย หากพบหลักฐานเพิ่มเติมจากการสอบสวน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา