
พรรคประชาชน แถลง มติกรรมการบริหารพรรค สนับสนุน อนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย เข้าสู่ที่ประชุมสภาเพื่อเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี มีผลเมื่ออนุทินลงนามอย่างเป็นทางการรับเงื่อนไข 5 ข้อ ยุบสภาภายใน 4 เดือน เลือกตั้งใหม่พร้อมทำประชามติตั้ง สสร.แก้ไขรัฐธรรมนูญ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 3 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) แถลงข่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ว่า ที่ประชุม กก.บห.มีมติเห็นชอบสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หากมีการนัดการประชุมและเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ และต้องมีการยุบสภาภายใน 4 เดือน เพื่อเลือกตั้งใหม่และจัดทำประชาชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายณัฐพงษ์กล่าวรายละเอียดว่า กก.บห.ได้มีการประชุมและมีมติ หากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ความเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พรรคประชาชนจะให้ความเห็นชอบแก่นายอนุทิน โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไข ดังนี้
ข้อที่หนึ่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน นับแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อให้มีการจัดเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป
ข้อที่สอง กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จำเป็นจะต้องออกเสียงประชามติก่อนรัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 256 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ จะต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สส.
ข้อที่สาม กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่จำเป็นต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 นั้น ครม.ชุดใหม่ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยจะต้องเร่งผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมเพื่อกำหนดให้มีการกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จในวาระของสภาชุดนี้โดยเร็ว
ข้อที่สี่ เพื่อสร้างหลักประกันว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยจะต้องไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อทำให้ตนเองเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
ข้อที่ห้า พรรคประชาชนยืนยันจะดำรงตนเองอยู่ในสถานะพรรคฝ่ายค้านต่อไป โดยทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งในครม.ชุดใหม่
“มติกก.บห.ดังกล่าวจะมีผลก็ต่อเมื่อหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยลงนามในข้อตกลงร่วมกันและมีถ้อยแถลงต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ”นายณัฐพงษ์กล่าว
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า สุดท้ายในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชนขอยืนยันต่อประชาชาชนว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของพรรคประชาชนไม่ได้ตัดสินใจโดยข้อคิดเห็นหรือความนิยมหรือผลประโยชน์ของพรรคประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่ตัดสินใจโดยมีเป้าหมายพาประเทศไปสู่ทางออกตามวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ป้องกันอำนาจนอกระบบเข้าแทรกแซง ปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พร้อมกับคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา