
ศาลรัฐธรรมนูญ ลงมติให้ 'แพทองธาร ชินวัตร' สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียงสนทนาฮุน เซน ขาดความรอบคอบไม่พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ชาติถือประโยชน์ส่วนตัวเหนือกว่า มติ 6 : 3 ชี้ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง พร้อมให้ ครม. พ้นตำแหน่งหน้าที่ ส่วนประเด็นไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มติ 5 ต่อ4 เสียง รอด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2568 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยลงมติ ให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พ้นตำแหน่งทั้งคณะ เนื่องจากขาดความรอบคอบไม่พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ชาติถือประโยชน์ส่วนตัวเหนือกว่า ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรง
โดยในการพิจารณาคดีนี้ มี 2 ประเด็น ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยประเด็นแรกเรื่องความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เสียง ว่า นางสาวแพทองธาร ไม่ผิด
ส่วนประเด็นที่สอง เรื่องการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมทางการเมืองอย่างร้ายแรง ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า นางสาวแพทองธาร มีความผิด โดยศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาหารือร่วมกันแล้ว มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เสียงข้างมาก คือ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ และนายอุดม รัฐอมฤต วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 4 เสียง คือ นายปัญญา อุดชาชน นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ เห็นว่า ผู้ถูกร้องขาดคณสมบัติและมีลักษณะต้องต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 เสียง คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรมและนายอุดม รัฐอมฤต เห็นว่า ผู้ถูกร้องขาดคุณสมสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) ทั้งนี้ นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 82 วรรคสอง คือ วันที่ 1 กรกฎาคม 2568
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 3 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายนภดล เทพพิทักษ์ และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ เห็นว่า เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างไม่ร้ายแรง ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถกร้องไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5)
เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) แล้ว รัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 วรรคหนึ่ง (1) โดยให้นำมาตรา 168 วรรรคหนึ่ง (1) มาใช้บังคับกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งต่อไป
ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้คู่กรณีคัดถ่ายสำเนาคําคำวินิจฉัยได้เมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันอ่านคำวินิจฉัย
คดีนี้เป็นผลสืบเนื่องจากกรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 18/2568)
สมาชิกวุฒิสภา รวม 36 คน เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) ว่า ปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้อง) กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลขนเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ซึ่งผู้ถูกร้องแถลงข่าวยอมรับว่าเป็นเสียงการสนทนาของตนกับสมเด็จ ฮุน เซน จริง แม้ผู้ถูกร้องจะแถลงข่าวในเวลาต่อมาว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัวโดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม แต่ผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องเห็นว่า ผู้ถูกร้องแสดงออกถึงความนิ่งเอยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการรวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ในสภาวะ วิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตแห่งความสัมพัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้ถูกร้องเห็นว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้าม
ผู้ถูกร้องไม่มีความชื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจชัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 422 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) และขอให้ศาลรัฐธรรมนุญสั่งให้ผู้ถกร้องหยดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
อ่านประกอบ :
- ฉบับเต็ม! คำชี้แจง 'แพทองธาร' ยื่นศาล รธน.คดีคลิปเสียงฮุน เซน ก่อนชี้ชะตา 29 ส.ค.
- ย้อนแนวคำวินิจฉัย ศาล รธน.ตัดสินคดี 'นายกไทย' ก่อนชี้ชะตา 'แพทองธาร' คลิปเสียง 'ฮุนเซน'
- เบื้องหลัง! เรียก'แพทองธาร-เลขา สมช.'ไต่สวนคดี‘ฮุนเซน’ให้สิทธิโต้แย้ง-ก่อนชี้ชะตา29 ส.ค.
- เปิดคำชี้แจง 'แพทองธาร' ยันไม่ฝ่าฝืนจริยธรรมคดีฮุนเซน ยื่นพยาน 5 ปาก ได้แค่ เลขาฯ สมช.
- เปิดคำชี้แจง 'แพทองธาร' (2) อ้าง ’ฮุนเซน’ ไม่พอใจ เลยต้องบอก ‘มทภ.2’ เป็นฝั่งตรงข้าม
- เปิดคำชี้แจง 'แพทองธาร' (3) อ้าง 'ฮวด' โทรหาก่อน ตัดสินใจคุย 'ฮุน เซน' แม้อยู่เพียงลำพัง
- เปิดคำชี้แจง 'แพทองธาร'(4) ยก 8 ประเด็นสู้ อ้าง'สว.'ใช้สิทธิ์ไม่สุจริต-พรรคการเมืองครอบงำ
- เปิดคำชี้แจง'แพทองธาร'(จบ) ตระหนัก-ยึดถือจริยธรรมขรก.การเมือง วิงวอนขอทำหน้าที่นายกฯต่อ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา