
'พนักงานสอบสวนฯ' คุมตัว ‘อดีตพระอลงกต-หมอบี’ ฝากขัง ก่อน ‘ศาลอาญาคดีทุจริตฯ’ สั่งอนุญาตให้ฝากขังครั้งแรก 12 วัน ไม่ให้ประกันตัวฯ เกรงหลบหนี-ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
......................................
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ภายหลังจากในกลางดึกที่ผ่านมา หรือเมื่อเวลา 03.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำตัวอดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ อดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี มาควบคุมตัวยังห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หลังถูกสอบปากคำนานกว่า 24 ชั่วโมง
โดยทิดจอร์จ ให้การเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับหมอบีที่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่ามีหลักฐานมาหักล้างการกระทำความผิด จากบัญชีที่เปิดรับบริจาค นั้น
ในช่วงเช้าวันนี้ ยังไม่มีลูกศิษย์หรือญาติของทั้ง 2 คน เดินทางมาเยี่ยมแต่อย่างใด และจากรายงานข่าว ระบุว่าทิดจอร์ด และหมอบี ถูกคุมขังคนละห้องกัน โดยตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่เข้ามา ทิดจอร์จ ได้นั่งสมาธิตลอดจนกระทั่งถึงเช้า ส่วนหมอบีได้นอนหลับพักผ่อน และทั้งคู่ไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า จากการสอบปากคำ อดีตพระอลงกต และนายเสกสันน์ ตลอดทั้งวันที่ที่ผ่านมา ทั้งสองคนยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการตอบคำถามหรือชี้แจงประเด็นสักถามข้อสงสัยต่างๆเท่าใดนัก โดยอ้างว่าจะทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ในภายหลัง ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้หนักใจหรือเป็นกังวล และมั่นใจว่าพยานหลักฐานต่างๆที่มีอยู่เพียงพอที่จะสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ได้
รายงานข่าวแจ้งว่า แม้จะมีการจับกุมตัวผู้ต้องหารายสำคัญทั้ง 2 รายนี้ได้แล้ว แต่ในส่วนของการสืบค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อสงสัยต่างๆก็ยังคงต้องดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะเส้นทางการเงินต่างๆ เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เงินของวัดถูกโอนถ่ายหรือยักย้ายถ่ายเทไปที่ใครบ้าง และจำเป็นต้องมีการเชิญตัวบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องหาทั้งสองมาให้ปากคำในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอีกหลายราย
ขณะที่ในส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับรถยนต์ ซูซูกิ จิมนี่ สีครีม ของ “อรอุ๋ง” ไอดอลสาวชื่อดังว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหมอบี หรือไม่ นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบที่ไปที่มาของรถคันดังกล่าวให้แน่ชัด แต่เบื้องต้นทราบว่า รถคันดังกล่าวถูกซื้อมาด้วยเงินสด
โดยในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนจะคุมตัวอดีตพระอลงกตและนายเสกสันน์ ไปฝากขังยังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และพนักงานสอบสวนมีความเห็นค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี และกลัวว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอื่นๆ
ต่อมาเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (กก.1 บก.ป.) ควบคุมตัว อดีตหลวงพ่ออลงกต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ จ 81/2568 ลง 22 สิงหาคม 2568 ข้อหา"เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด
เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิขอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคนโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน" และ นายเสกสันน์ หรือ "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" เจ้าของเพจ "งมงาย สไตล์หมอบี" ไปฝากขังศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
โดยอดีตพระอลงกต สวมเสื้อผ้าสีกรักหรือสีน้ำตาลเข้มคล้ายจีวรพระสงฆ์สายธรรมยุติกนิกาย โดยคลุมผ้าสีคล้ายจีวรพระ ซึ่งขณะกำลังเดินขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา อดีตหลวงพ่ออลงกต มีสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือทักทายผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวจำนวนมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรจะชี้แจงหรือไม่ รับสารภาพหรือปฏิเสธ และจะกลับมาบวชอีกหรือไม่ แต่อดีตพระอลงกต ปฏิเสธที่ตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด ก่อนเจ้าหน้าที่นำขึ้นส่งศาลต่อไป
ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายเนื่องจากเกรงจะหลบหนีและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน
@ศาลอนุญาตฝากขัง‘อดีตพระอลงกต-หมอบี’-ไม่ให้ประกันฯ
ทั้งนี้ หลังจากพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก อดีตพระอลงกต ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
และนายเสกสันน์ หรือหมอบี ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.2568
โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 2 เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง มูลค่าทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดมีมูลค่าสูง พนักงานสอบสวนคัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนีและยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน จึงให้ยกคำร้อง
จากนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา