
ปปง.ยึดอายัดทรัพย์ 16.9 ล้าน คดี‘ชัยณรงค์’ผู้ช่วยไวยาวัจกร วัดเครือวัลย์วรวิหาร กับพวก ร่วมลักทรัพย์-ยักยอกเงินฝากธนาคาร 3 บัญชี 30 ล้าน เหลือ บช.ละ 500 บาท ตามได้ 16 รายการ บ้านที่ดิน ห้องชุด ใน จ.นนทบุรี กรุงเทพฯ ประกาศให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอชดใช้คืน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า 24 มี.ค. 2568 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ 59/2568 เรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ราย นายชัยณรงค์ กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์พย์หรือยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ร่วมกัน ปลอมแปลงลายมือชื่อของเจ้าอาวาสแล้วเบิกถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด ทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดประกอบด้วย ที่ดินตามโฉนดที่ดิน จำนวน 4 แปลง ในต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้าง , ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี , เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 2 แปลง และ ห้องชุดใน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ในชื่อนายกฤษณ์ นายนพดล และ นายชัยณรงค์ รวม 5 รายการ และ เงินในบัญชีเงินฝากรวม 11 รายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 16,989,376.73 บาท
ที่มาของคดีนี้ ปปง. ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจนครบาลบางกอกใหญ่ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 วัดเครือวัลย์วรวิหารได้รับแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายจากกองทัพเรือ เพื่อทำบุญให้แก่วัดจำนวน 1,525,305.28 บาทโดยสั่งจ่ายให้วัดเครือวัลย์วรวิหาร บัญชีเลขที่ (ปิดข้อมูล) วัดจึงมอบหมายให้ไวยาวัจกร คือ นายกฤษณ์ นำเช็คดังกล่าวไปเรียกเก็บเงินเพื่อนำเงินเข้าบัญชีของวัด ต่อมาช่วงเดือนเมษายน 2567 ปรากฏว่า นายชัยณรงค์ได้ทำการปลอมแปลงลายมือชื่อของเจ้าอาวาสแล้วเบิกถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด จำนวน 6 ครั้ง รวมเป็นเป็นเงินจำนวน 1,524,950 บาท โดยวัดได้ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 จากนั้น ได้ตรวจสอบรายการเดิมบัญชีเงินฝากธนาคารของวัดทั้งหมด ย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557ในช่วงที่นายชัยณรงค์เข้ามาเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรของวัด ซึ่งเดิมวัดมีบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 3 บัญชี มีเงินในบันบัญชี เงินฝากธนาคารรวมกันประมาณ 30,000,000 บาท แต่ภายหลังจากที่นายชัยณรงค์เข้ามาดูแล พบว่า มีการถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารโดยที่เจ้าอาวาสวัตไม่ทราบในการทำธุรกรรมทางการเงินดังกล่าว โดยปัจจุบันบัญชีเงินฝากธนาคารทั้ง 3 บัญชี มียอดเงินคงเหลือในบัญชีไม่เกินบัญชีละ 500 บาท จึงเชื่อว่านายชัยณรงค์ ได้ลักทรัพย์เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารของวัดทั้ง 3 บัญชี ไปโดยทุจริต ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลลูฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการพ่อกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายชัยณรงค์ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งยุดและอายัดทรัพย์จำนวน 16 รายการ (ดูประกาศคำสั่งรายการทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดในเอกสารท้ายข่าว)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2568 ปปง. ออกประกาศให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานราย นายชัยณรงค์ นพรัตน์ กับพวก ยื่นคําร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 ( เรื่องเกี่ยวข้อง: ปปง.ออกประกาศให้ผู้เสียหายยื่นขอรับคืนทรัพย์ คดีไวยาวัจกรยักยอกเงินวัดเครือวัลย์ฯ)







Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา