‘ครม.’ เห็นชอบ ‘เปลี่ยนแปลง-เพิ่ม’ งบประมาณปี 69 กว่า 1.26 แสนล้าน เพิ่มงบกลาง ‘รายการฉุกเฉินฯ’ อีก 3.4 หมื่นล้าน ชำระดอกเบี้ยเงินกู้ 3.3 หมื่นล้าน เติมเงินกองทุน ‘กยศ.’ 5.9 พันล้าน
......................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธานฯ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ครม.มีมติเห็นชอบการขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ตามที่สำนักงบประมาณ เสนอ และให้เสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ต่อไป
ทั้งนี้ การขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ดังกล่าว มีการตรวจสอบและรับรองข้อมูลแล้วว่า การดำเนินการนั้น ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กฎหมายหรือระเบียบอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยผ่านความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัด เป็นต้น พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลรายละเอียดคำขอเพิ่มงบประมาณในระบบ e-Budgeting ตามขั้นตอนครบถ้วนแล้ว มีดังนี้
1.การขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงินทั้งสิ้น 126,524.47 ล้านบาท ประกอบด้วย
-รายจ่ายที่ต้องดำเนินการตามข้อผูกพันที่เกิดจากกฎหมาย สัญญา ข้อตกลงระหว่างประเทศ และค่าใช้จ่ายเพื่อการชำระหนี้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายตามสิทธิ วงเงินทั้งสิ้น 90,690.55 ล้านบาท
-รายจ่ายเพื่อการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รายจ่ายเพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หรือรายจ่ายที่ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง ตลอดจนรายจ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของหน่วยรับงบประมาณ 35,838.01 ล้านบาท
สำหรับรายการการขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายฯ ที่น่าสนใจ เช่น งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 34,321 ล้านบาท ,ค่าใช้จ่ายสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2569 จำนวน 2,991.5 ล้านบาท ,โครงการขับเคลื่อนและยกระดับนวัตกรรมอาหารด้วยขุมพลังสหวิทยาการ (หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย) จำนวน 280 ล้านบาท
โครงการเน็ตประชารัฐ และโครงการขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต (โครงการงบ Big Rock) วงเงิน 5,357.07 ล้านบาท โดยนำไปจ่ายยอดชำระยอดค่าใช้จ่ายในโครงการงบ Big Rock ที่เกิดขึ้นจริง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562-2565 ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะประจำหมู่บ้านๆละ 1 จุดอย่างต่อเนื่อง จำนว 24,700 หมู่บ้าน และโรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและสุขศาลพระราชทานในพื้นที่เป้าหมาย 1,671 แห่ง
โครงการลูกจ้างผู้ประกันตนได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมายประกันสังคม (เงินสมทบกองทุนประกันสังคม) วงเงิน 2,981.12 ล้านบาท ,สนับสนุนค่างานโยธาตามสัญญาสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม จำนวน 14,523.12 ล้านบาท ,สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาด้วยการให้เงินกู้ยืมเพื่อกการศึกษาและนักเรียนหรือนักศึกษา (เงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา วงเงิน 5,914.6 ล้านบาท
สนับสนุนและช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม จำนวน 25,000 ล้านบาท และการบริหารการชำระหนี้ของรัฐบาล (ชำระดอกเบี้ยเงินกู้) 33,861.07 ล้านบาท เป็นต้น


2.การเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ประกอบด้วย
-ลดงบประมาณรายจ่าย มาตรา 20 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงมหาดไทย โดยลดงบประมาณรายจ่าย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (5) แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 114.53 ล้านบาท และเพิ่มงบประมาณรายจ่าย มาตรา 33 งบประมาณรายจ่าย ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 แห่ง (เทศบาลเมือง 3 แห่ง และเทศบาลตำบล 1 แห่ง) จำนวน 114.53 ล้านบาท
-ลดงบประมาณรายจ่าย มาตรา 38 งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบุคลากร โดยลดงบประมาณรายจ่าย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 70.71 ล้านบาท และเพิ่มงบประมาณรายจ่าย มาตรา 33 งบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (องค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 13 แห่ง) ตามแผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 70.71 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาเรื่องการขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ต่อ ครม. โดย สศช. ระบุว่า หากสำนักงบประมาณและหน่วยรับงบประมาณที่เสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 มีการดำเนินการเป็นไปตามมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 รวมทั้งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว ก็เป็นการสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาให้ความเห็นชอบได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในแผนการคลังระยะปานกลาง ขณะที่การเพิ่มสัดส่วนการจัดเก็บรายได้รัฐบาลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศยังมีแนวโน้มที่จะเป็นไปอย่างล่าช้า
ดังนั้น สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาให้ความสำคัญกับการปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ในส่วนที่เห็นว่าไม่จำเป็นหรือไม่เหมาะสม เพื่อลดแรงกดดันต่อฐานะการคลัง และเพื่อให้มีพื้นที่ทางการคลังเพียงพอต่อการรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกที่อาจมีความรุนแรงมากขึ้นในระยะต่อไป
อ่านประกอบ :
ครม.เคาะหลักเกณฑ์‘ขอเพิ่ม-เปลี่ยนแปลง’งบรายจ่ายปี 69-ย้ำต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ม.144
นายกฯกำชับพิจารณาจัดทำงบปี 69-จัดสรรเงินกระตุ้น 1.57 แสนล. ต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ม.144
ระเบิดลง! สตง.เตือนใช้งบ 1.57แสนล้าน , สงป.เบรก5.1หมื่น ล.-ปปช.สอบขัด รธน.มาตรา144
ฮั้วดึง 7.4 พันล.ลงพื้นที่'สส.เพื่อไทย' เหตุ'ป.ป.ช.'สอบขัด รธน.-สำนักงบฯเบรก 5 หมื่นล้าน
ย้อนพฤติการณ์โยกงบ'ใช้หนี้'3.5 หมื่นล.โปะ'ดิจิทัลวอลเล็ต'ส่อขัดรธน. ก่อน'ป.ป.ช.'รับสอบฯ
‘พิชัย’ ลั่น จัดทำงบปี 68 ‘แจกเงินหมื่น’ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 144
ป.ป.ช.รับสอบคดีจัดทำงบฯปี 68 แจกเงินหมื่น ขัดรธน.ม.144 กล่าวหา ‘แพทองธาร-สส.-สว.' ยกคณะ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา