
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก 12 ปี อดีตรอง ปธ.อคส.-ผู้ช่วย ผอ. พรรคพวกโดน 10 ปี-ปรับเอกชน2 แสน พฤติการณ์ฮั้วประมูลไซโลเก็บข้าว ช่วงปี 52 เอื้อประโยชน์ให้เอกชนถูกจัดโดยรอง ผอ.อคส. เข้ารับสัญญารัฐ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)รายงานว่าเมื่อวันที่ 16 ก.ค. เวลา 9.30 นาฬิกา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 อ่านคําพิพากษาในคดี หมายเลขดําที่ อท109, 112/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อท70, 21 /2568 หรือคดีฮั้วประมูลการจัดหาไซโลเก็บข้าว ระหว่างอัยการสูงสุด โดยพนักงาน อัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 โจทก์ นายยงยศ ปาละนิติเสนา อดีตรองประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า(อคส.)จำเลยที่ 1กับพวกรวม 7 คน
โดยศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกนายยงยศ จำเลยที่ 1 และอดีตผู้ช่วยผู้อํานวยการองค์การคลังสินค้าที่ไม่ได้ระบุชื่อ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 12 ปี
จำคุกอดีตทีมงานศึกษาแผน แม่บทโลจิสติกส์ซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 ,อดีตทีมงานศึกษาและวิเคราะห์โครงการจัดสร้างไซโลและ คลังเก็บข้าว จำเลยที่ 4 ,รองผู้อํานวยการองค์การคลังสินค้าจำเลยที่ 5 และอดีตหัวหน้างานบริหารโลจิสติกส์องค์การคลังสินค้า ซึ่งเป็นจำเลยที่ 6 รวม 10 ปี
และปรับบริษัทเอช เอ็ม ปิโตรเลียม (ไทยแลนด์) จำกัด จำเลยที่ 7 ร่วม 2 แสนบาท ถ้าจำเลยที่ 2 ไม่ชําระค่าปรับ ให้ดําเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29
สำหรับรายละเอียดคำพิพากษาโดยสรุปตามเอกสารข่าวแจกของศาลนั้นระบุว่า
คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองสํานวนเป็นใจความว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ดํารงตําแหน่งรองประธาน กรรมการองค์การคลังสินค้า และได้รับมอบหมายให้รักษาการในตําแหน่งผู้อํานวยการองค์การคลังสินค้า จำเลยที่ 2 ดํารงตําแหน่งผู้ช่วยผู้อํานวยการองค์การคลังสินค้าได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบสํานักโลจิสติกส์และได้รับแต่งตั้งเป็น
คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครเข้าร่วมโครงการจัดหาไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าว จำเลยที่ 5 ดํารงตําแหน่งรองผู้อํานวยการ องค์การคลังสินค้าได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบสํานักโลจิสติกส์ จำเลยที่ 5 ดํารงตําแหน่งหัวหน้างานบริหารโลจิสติกส์ ส่วนงานโลจิสติกส์ สํานักโลจิสติกส์
เมื่อระหว่างวันที่ 11 มีนาคม 2552 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 9 กันยายน 2552 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 5 และที่ 5 ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดหาไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวขององค์การ คลังสินค้าร่วมกับจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 ทุจริตต่อหน้าที่ในการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการจัดหาไซโลเพื่อเก็บ รักษาข้าวขององค์การคลังสินค้าเอื้ออํานวยแก่ผู้เข้าทําการเสนอราคารายจำเลยที่ 7 ให้เป็นผู้มีสิทธิทําสัญญากับองค์การ คลังสินค้า ทั้งที่จำเลยที่ 7 ไม่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่องค์การคลังสินค้ากําหนด และเอื้อประโยชน์ให้ GGF Golden House Sdn. Bhd. พวกของจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลสัญชาติมาเลเซียเป็นผู้มีสิทธิในลําดับแรกที่จะเสนอซื้อข้าวเปลือกหรือข้าวสารขององค์การคลังสินค้าเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศโดยองค์การคลังสินค้าจะมีส่วนลดให้ใน อัตราไม่เกินร้อยละ 25 ของราคา FOB ของสภาหอการค้าไทย ณ วันที่มีคําสั่งซื้อ
จำเลยทั้งเจ็ดให้การปฏิเสธ
ทางไต่สวนได้ความว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ดํารงตําแหน่งรองประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า และรักษาการในตําแหน่งผู้อํานวยการองค์การคลังสินค้า จำเลยที่ 2 ดํารงตําแหน่งผู้ช่วยผู้อํานวยการองค์การคลังสินค้า จำเลยที่ 5 ดํารงตําแหน่งรองผู้อํานวยการองค์การคลังสินค้า และจำเลยที่ 6 ดํารงตําแหน่งหัวหน้างานบริหารโลจิสติกส์องค์การคลังสินค้า
โดยจำเลยที่ 5 เป็นประธานคณะกรรมการดําเนินการจัดจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาแผนแม่บท ด้านโลจิสติกส์ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการ และจำเลยที่ 6 เป็นกรรมการและ เลขานุการ จำเลยที่ 1 และที่ 2 แนะนําให้ผู้แทนมหาวิทยาลัยขอนแก่นรับจำเลยที่ 3 เข้าร่วมทีมงานศึกษาแผน แม่บทโลจิสติกส์ วันที่ 9 เมษายน 2552 องค์การคลังสินค้าทําสัญญาจ้างมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นที่ปรึกษา โครงการศึกษาแผนแม่บทด้านโลจิสติกส์ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า
วันที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยสถานจัดการและอนุรักษ์พลังงานทําสัญญาจ้างจำเลยที่ 3 ศึกษาและวิเคราะห์ เกี่ยวกับไซโลเพื่อจัดเก็บข้าวและทําสัญญาจ้างจำเลยที่ 4 ศึกษาและวิเคราะห์โครงการจัดสร้างไซโลและ คลังเก็บข้าว วันที่ 30 กรกฎาคม 2552 องค์การคลังสินค้าประกาศจัดหาไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวปรากฏว่ามี ผู้สนใจสมัครรวม 5 ราย คือจำเลยที่ 7 บริษัทเอช เอ็ม ปิโตรเลียม (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทสยามธัญรักษ์ไซโล จำกัด บริษัทวีระพลการช่าง จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด ก.นําเบญจพลพาณิชย์ ในการยื่นความจำนงสมัคร เข้าร่วมโครงการจัดหาไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวขององค์การคลังสินค้ามีการนําเอาบริษัทวีระพลการช่าง จำกัดและห้างหุ้นส่วนจำกัด ก.นําเบญจพลพาณิชย์ มายื่นความจำนงสมัครเข้าร่วมโครงการเพียงเพื่อให้เป็นการเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาของผู้สมัครว่ามีการแข่งขันการเสนอราคากันจริงโดยแท้จริงแล้วมิได้มี การแข่งขันการเสนอราคากันแต่อย่างใด วันที่ 6 สิงหาคม 2552 จำเลยที่ 2 มีหนังสือขอให้ผู้แทน มหาวิทยาลัยขอนแก่นพิจารณาให้คะแนนทางด้านเทคนิค วันที่ สิงหาคม 2552 คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร เข้าร่วมโครงการจัดหาไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวประชุมเพื่อคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการโดยจำเลยที่ 3 เข้าร่วมประชุมด้วย
องค์การคลังสินค้าเสนอคะแนนด้านเทคนิคว่าบริษัทใดควรได้คะแนนเท่าใดในที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือก ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการจัดหาไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวส่งผลให้ผู้แทนมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้คะแนนด้านเทคนิค จำเลยที่ 7 ว่าได้คะแนนรวมสูงสุดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 เพียงรายเดียว
ในวันเดียวกันนั้นจำเลยที่ 7 ยื่นขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิจากเดิม 23 ข้อเป็น 27 ข้อ โดยเพิ่มวัตถุประสงค์การประกอบ กิจการโรงสีข้าวและแปรรูปข้าว ให้เช่าคลังสินค้าและไซโล กิจการค้าข้าว ข้าวโพด มันสําปะหลัง พืชไร่และ พืชทางการเกษตรทุกชนิด สั่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศซึ่งสินค้าที่กําหนด ไว้ในวัตถุประสงค์เป็นข้อ 24 ถึงข้อ 27 เพื่อให้วัตถุประสงค์ของจำเลยที่ 2 สอดคล้องกับกิจการอันจำเลยที่ยื่นความจำนงสมัครเข้าร่วมโครงการจัดหาไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวขององค์การคลังสินค้า ทั้งที่ในขณะยื่น ความจำนงเข้าร่วมโครงการดังกล่าว จำเลยที่ 2 หาได้มีวัตถุประสงค์ในการให้เช่าไซโลและกิจการเกี่ยวกับ การค้าข้าวแต่อย่างใด
วันที่ 14 สิงหาคม 2552 คณะกรรมการองค์การคลังสินค้าประชุมครั้งที่ 10/2552 อนุมัติให้เช่าไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวแก่จำเลยที่ 7 วันที่ 17 สิงหาคม 2552 จำเลยที่ 2 มีหนังสือขออนุมัติทําบันทึกข้อตกลงร่วมกับจำเลยที่ 2 และ GGF Golden House Sdn. Bhd ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของจำเลยที่ 7 โดยให้ GGF Golden House Sdn. Bhd. มีสิทธิอันดับแรกที่จะซื้อข้าวเปลือกหรือข้าวสารจากองค์การคลังสินค้าเพื่อการส่งออก ในราคาอ้างอิง FOB ของสภาหอการค้าไทย โดยองค์การคลังสินค้าจะต้องให้ส่วนลดในอัตราไม่เกินร้อยละ 25 ซึ่ง นับเป็นผลประโยชน์มหาศาลตลอดอายุสัญญาเช่ายาวนานถึง 30 ปี จำเลยที่ 1 อนุมัติให้ดําเนินการได้
วันที่ 2 กันยายน 2552 สํานักกฎหมายตรวจร่างสัญญาเช่าแล้วเห็นควรแก้ไข
แต่จำเลยที่ 1 อนุมัติให้ใช้ร่างสัญญาเช่า แบบที่ 2 ซึ่งเป็นแบบที่ไม่ต้องส่งให้อัยการสูงสุดตรวจ แสดงถึงเจตนาที่จะรีบเร่งจ้างมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้ เป็นที่ปรึกษาโครงการฯ เพื่อเป็นช่องทางให้จำเลยที่ 3 เข้าไปมีส่วนร่วมในการกําหนดคะแนนด้านเทคนิคของ ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการส่งผลให้จำเลยที่ 7 ได้รับคะแนนด้านเทคนิคสูงสุดและได้รับการคัดเลือกทั้งที่ในข้อ 2 ของสัญญาเช่าไซโลได้กําหนดระยะเวลาให้จำเลยที่ 7 ก่อสร้างไซโลให้แล้วเสร็จหลังจากทําสัญญาเช่ากับ องค์การ คลังสินค้าแล้วถึง 2 ปี หาใช่องค์การคลังสินค้าจะได้รับประโยชน์จากสัญญาเช่าไซโลในทันทีที่ลงนาม ในสัญญาแต่อย่างใดไม่
การกระทําดังกล่าวจึงเป็นการเอื้อประโยชน์แก่จำเลยที่ 7 ให้เป็นผู้มีสิทธิเข้าทําสัญญา กับองค์การคลังสินค้า และให้ GGF Golden House Sdn. Bhd. ได้รับประโยชน์จากการซื้อข้าวจากองค์การ คลังสินค้า วันที่ 9 กันยายน 2552 องค์การคลังสินค้าทําสัญญาเช่าไซโลกับจำเลยที่ 7 และทําบันทึก ข้อตกลง 3 ฝ่ายกับจำเลยที่ 7 และ GGF Golden House Sdn. Bhd ทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยที่ 7 กําเนิดจากการก่อการจัดตั้งของจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นภริยาของจำเลยที่ 3 โดยใช้ชื่อขณะก่อการจัดตั้งว่าบริษัท อินสไปเรชั่น อราวนด์ จำกัด มีสํานักงานใหญ่เป็นบ้านพักของจำเลยที่ 3 กับที่ 4 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 จำเลยที่ 7 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการและเพิ่มทุนจดทะเบียนโดยจำเลยที่ 3 เข้าร่วมเป็นกรรมการและ ผู้มีอํานาจกระทําการแทนจำเลยที่ 2 ในเวลาต่อมา วันที่ กันยายน 2554 องค์การคลังสินค้าจึงมีหนังสือ บอกเลิกสัญญาเช่าไซโลต่อจำเลยที่ 7
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 พิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8, 11
จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 จำเลยที่ 5 และที่ 5 มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8
ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 11 การกระทําของจำเลยทั้งเจ็ดเป็นการกระทําเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา ต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ลงโทษจำเลยที่ 3 ถึงที่ 2 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับ การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 กฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
ให้จำคุกและปรับจำเลยที่ 7 ราย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา