
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากทม. ค้าน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ชี้ ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ต้นทุนชดเชยสูง 1.1 หมื่นล้าน กระทบสัญญาสัมปทานสายสีเขียว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล (ระยะที่ 2) อย่างไรก็ตามในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกทม.ได้ตอบความเห็นถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไม่เห็นด้วย เนื่องจากแม้มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่ดี เป็นประโยชน์ สามารถลดค่าครองชีพของประชาชน ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แต่จะทำให้เกิดภาระงบประมาณที่สูง เนื่องจากต้องมีการชดเชยให้กับเอกชนผู้เดินรถ ดังนั้น ต้องศึกษารายละเอียด วิธีการคิดค่าใช้จ่าย และวิธีการชดเชยให้ได้ข้อยุติก่อน เพราะหากกทม.ไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณอย่างเพียงพอ ส่งผลให้เป็นภาระต่องบประมาณ หรือภาระการคลังของกทม.ในอนาคต และไม่เป็นการรักษาวินัยการเงินการคลังตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561
นอกจากนี้จากประมาณการค่าใช้จ่ายในการชดเชยส่วนต่างรายได้ของโครงการรถไฟฟ้าภายใต้กำกับของกทม. ได้แก่ สายสีเขียวและสายสีทอง รวม 2,525 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชดเชยต่ำกว่าค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงของส่วนต่อขยายที่กทม.จ้าง โดยคาดว่าต้นทุนในการบริหารจัดการโครงการในปีงบประมาณ 2569 ค่าชดเชยต้องใช้งบประมาณสูงเป็นจำนวน 11,059.64 ล้านบาท ดังนั้น จึงไม่สามารถยืนยันประมาณการดังกล่าวตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอได้
ขณะที่การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนสัมปทาน กทม.ได้ทำสัญญาสัมปทานกับเอกชน หากมีการเปลี่ยนแปลงค่าโดยสารตามมาตรการของรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขในสัญญาสัมปทาน ดังนั้น จึงต้องดำเนินการเจรจากับผู้รับสัมปทานให้ได้ข้อยุติก่อน
สุดท้าย กทม.มีงบประมาณจำกัด หากต้องใช้งบประมาณของกทม.ชดเชยค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อดำเนินตามมาตรการที่กระทรวงคมนาคมเสนอ อาจทำให้ กทม.มีงบประมาณไม่เพียงพอในการพัฒนาภารกิจอื่น ดังนั้น ควรที่รัฐบาลต้องเป็นผู้ชดเชยค่าใช้จ่ายทั้งหมด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา