
'สมศักดิ์'ยังไม่ดึง'กัญชา'กลับเป็นยาเสพติด ชี้ต้องคำนึงผู้รับผลกระทบ เผยมีมาตรการควบคุม หลัง 'ภูมิใจไทย' ปล่อยเกียร์ว่างตั้งแต่ปี 2565 ยกตัวอย่าง 'กระท่อม' มีกฎหมายก่อนประกาศใช้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กลื่าวถึงการแก้ปัญหายาเสพติด ว่า ขณะนี้มีปัญหาเร่งด่วนคือ ปัญหาการเมืองบ้าง เรื่องการรักษายาเสพติดไม่ได้มีปัญหาอะไร จะมีปัญหาการเมืองบ้างก็ถกเถียงกันไป เรื่องบำบัดฟื้นฟูในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขก็รับได้ทั้งหมด
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีดึงกัญชากลับคืนสู่บัญชียาเสพติดว่า เรื่องการนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดมีการสอบถามตนบ่อยมาก เรื่องกัญชามีการปล่อยให้เกียร์ว่างมาตั้งแต่ปี 2565 มีร้านค้าเกิดขึ้น 18,000 ร้านค้า มีมูลค่าการลงทุนถึง 3-4 หมื่นล้านบาท ถ้าจะนำกลับไปเป็นยาเสพติด จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบต่อนักลงทุนที่ลงทุนอยู่ จึงจำเป็นต้องทำให้เกิดความสมดุล ไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ถูกฟ้องร้อง ไม่มีม็อบ เราก็ประกาศให้เป็นสมุนไพรควบคุม โดยจะใช้สมุนไพรชนิดนี้จะต้องขอใบสั่งแพทย์
ขณะนี้แพทย์ที่มีสภาวิชาชีพควบคุมที่ออกใบสั่งแพทย์ได้มี 2 วิชาชีพ คือ แพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทย ที่มีสภาวิชาชีพของตนกำหนดควบคุมการใช้ในโรคนั้นๆ แต่แพทย์ด้านอื่นๆ ยังไม่มีบทบัญญัติของแต่ละสภาวิชาชีพ ที่จะสามารถออกใบสั่งแพทย์ได้ ก็ไม่สามารถออกใบสั่งแพทย์ได้ จึงต้องให้การอบรมสร้างความเข้าใจต่อไป ดังนั้นการประกาศให้เป็นยาเสพติดทันทีนั้น จะส่งผลกระทบต่อ 18,000 ร้านค้า ก็ต้องทำความเข้าใจ รัฐบาลไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อน
“วันนี้มีคนเดือดร้อน อย่างกัญชา สูบแล้วมีควัน เหม็น เราก็ต้องดำเนินการควบคุม ส่วนเรื่องกระท่อม มีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว โดยให้มีการจำหน่ายได้เฉพาะใบสด และต้มดื่มได้เองในบ้านห้ามจำหน่าย โดยทั้งหมดยังเปิดให้นำส่วนดีมาใช้ประโยชน์ อย่างกระท่อม ก็มีรายงานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่า กว่า 1 ตัน สามารถสกัดสารไมทราไจนีน 7-Hydroxymitragynine ได้ 1 ลิตร ซึ่งขายได้ราคาสูงลิตรละกว่าล้านบาท” นายสมศักดิ์ กล่าว
@โฆษก สธ. โต้ 'ศุภชัย-ภูมิใจไทย' ยันปลดกระท่อมรัดกุม ไม่ใช่ปล่อยปละ
ในวันเดียวกัน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยถึงกรณีนายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ปล่อยกระท่อมออกมาจนเป็นปัญหา มีเด็กเอาไปเสพติด ผสม 4×100 อาละวาดไปทั่ว นั้น โดยข้อเท็จจริงนั้น เชื่อว่านายศุภชัย คงทราบดีถึงปัญหานี้ เรื่องใบกระท่อมนำมาผสม 4×100 มีมาตั้งแต่ก่อนที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสียอีก ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามจับกุมโดยตลอด สามารถย้อนไปดูข่าวได้ แต่ข้อดีของใบกระท่อม ไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะพี่น้องชาวใต้จะทราบกันดี และนายศุภชัยเองก็เป็นคนใต้ด้วยน่าจะรู้ดีกว่าใคร
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เล็งเห็นถึงข้อดีที่มีมากกว่าข้อเสีย เพียงแต่ต่างกันที่การทำกฎหมายของแต่ละพรรคการเมือง มีความรอบคอบรัดกุมเพียงใด ที่จะให้พืชทั้ง 2 ชนิดนั้น ถูกหยิบประโยชน์มาใช้ ไม่ถูกนำไปใช้ในทางอื่นให้เกิดเป็นโทษ กระท่อมปลดออกจากยาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 แล้วร่าง พ.ร.บ. พืชกระท่อม เข้าสภาและรับหลักการในวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 เป็นดำเนินการอย่างรัดกุม เป็นการออกกฎหมายควบคุมก่อนเพื่อสามารถใช้กฎหมายดำเนินการควบคุมได้ ไม่ได้ปลดพืชกระท่อมออกมาแล้วปล่อยตามมีตามเกิด
ใน พ.ร.บ. พืชกระท่อม พ.ศ. 2565 มีเนื้อหาสาระในการควบคุม กำกับ การนำไปใช้ ไว้แล้ว เช่น มาตรา 24 ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมให้ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี คนท้อง หญิงให้นมบุตร มาตรา 25 ห้ามขายในสถานที่ต่างๆ และที่สำคัญ ใน มาตรา 27 ได้มีการ “ห้ามผู้ใดบริโภคใบกระท่อมที่ผสมยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ หรือผสมยาแก้ไอ …” ไว้แล้ว
ปัญหาที่มีพบเห็นมีการเอาน้ำกระท่อมไปผสมยาเสพติดนั้น เป็นปัญหาที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องช่วยกันเข้ามากวดขัน จับกุม เพราะมีกฎหมายควบคุมไว้แล้ว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทันที ประชาชนเห็นเบาะแสสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้
น.ส.ตรีชฎา กล่าวอีกว่า ส่วนกัญชา มีประกาศกระทรวงฯ เรื่อง สมุนไพรควบคุม(กัญชา) ปี พ.ศ.2565 ก็จริง แต่มีการปลดล็อคกัญชาก่อนจะมีกฎหมายควบคุมออกมาบังคับใช้ พบว่ามีช่องโหว่ คือคนขายกัญชา ขายให้ใครก็ได้ ยกเว้น เด็ก คนท้อง หญิงให้นมลูก ทำให้พบเห็นมีการซื้อขายกัญชาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ได้ใช้ทางการแพทย์อย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆ โดยประกาศกระทรวงฉบับล่าสุด ให้มีแพทย์มาควบคุม การซื้อขายต้องมีใบสั่งแพทย์ แพทย์เป็นคนตัดสินใจ ว่าใครต้องใช้ เป็นการอุดรูรั่ว ปิดช่องกัญชาเสรี ทุกคน ทุกช่วงวัย
“หลังจากประกาศกระทรวงให้ใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ออกไปแล้ว พี่น้องประชาชนก็ให้การตอบรับและสนับสนุนเป็นอย่างดี จึงสงสัยว่าเหตุใดวันนี้จึงยังมาถกเถียงกัน ทั้งที่พรรคภูมิใจไทยเอง ก็มุ่งหวังให้ใช้ทางการแพทย์จริง ไม่ใช่สันทนาการ ไม่ใช่หรือ ไม่อยากให้นายศุภชัย ไปหลงประเด็น ในการถกเถียงในวันนี้ มันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ หากท่านพบเห็นการนำกระท่อม ไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ ก็สามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้เลย” น.ส.ตรีชฎา กล่าว
น.ส.ตรีชฎา กล่าวด้วว่า ล่าสุด อย. ก็ไปดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดในการนำน้ำกระท่อมไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ ผิดกฎหมาย และกรณีที่มีการนำไปใช้ผสมเป็นสารเสพติด ฝ่ายยุติธรรมก็ได้ดำเนินการจับกุม ส่วนที่เป็นรูปธรรมในทางการแพทย์ของกระท่อม ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทาน ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นำมาต่อยอดพัฒนา ใช้ทางการแพทย์และสาธารณสุข นำพืชกระท่อมไปพัฒนาตำรับยา เพื่อใช้บำบัดผู้ติดบุหรี่ ผลงานวิจัย ชื่อ “นวัตกรรมตำรับยาจากกระท่อมสมุนไพรเศรษฐกิจ ทางการแพทย์แผนไทย เพื่อบำบัดผู้เสพติดบุหรี่ในระบบบริการสาธารณสุข จะเห็นว่า การปลดพืชกัญชา กับพืชกระท่อม แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
"นายศุภชัยอย่ามาโจมตีพรรคเพื่อไทยด้วยการกล่าวหาว่าเล่นเกมการเมือง ทำให้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…ต้องตกไป พรรคเพื่อไทยไม่ได้เล่นเกมการเมือง แต่เป็นการทำหน้าที่ เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้าน ในช่วงที่ภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น รมต.กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนั้นอดีตพรรคก้าวไกลก็เป็นฝ่ายค้านและได้คัดค้านร่างพ.ร.บ.กัญชาฯที่จะนำไปใช้เพื่อสันทนาการและเศรษฐกิจเช่นกัน ปัจจุบันภูมิใจไทยมาเป็นฝ่ายค้านกับพรรคประชาชน ก็ขอให้ไปคุยและทำความเข้าใจกันให้ดี พูดกันให้รู้เรื่องว่า เรื่องกัญชา กระท่อม จะเอาไปใช้ประโยชน์อย่างไร” น.ส.ตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา