
พรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘นายกฯ’ วันที่ 3 ก.ค.นี้ ชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมมือ ส่วนข้อกล่าวหาอยู่เบื้องหลังม็อบ-แกนนำพรรคเอาทรัพย์สินไปซุกที่กัมพูชาก็ไม่จริง อัดอย่าประมาทพลังประชาชน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 มิถุนายน 2568 นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคครั้งแรก หลังจากประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ที่ประชุมได้พูดคุยเรื่องการทำหน้าที่ของพรรคหลังจากนี้ โดยหลังจากการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปีที่ 3 ที่จะเปิดในวันที่ 3 ก.ค.นี้ พรรคมีมติว่าต้องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราขอเชิญชวนพรรคประชาชน พรรคพลังประชารัฐ พรรคเป็นธรรม และพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งอยู่ในสัดส่วนของพรรคฝ่ายค้านให้ร่วมกันลงชื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ถึงประเด็นการปฎิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเนื้อหาของญัตติเข้าใจว่าทุกท่านได้เห็นกันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
“มติพรรคที่ออกมาวันนี้เราสส.พรรคภูมิใจไทยทั้ง 69 เสียงในนามสมาชิกพรรคภูมิใจไทย พร้อมที่จะเซ็นยื่นญัตติเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมกันทุกท่าน เพราะคลิปเสียงชัดเจนมากที่สุดแล้วว่าเราไม่สามารถไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้“ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้วหรือยัง โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เราขอใช้คำว่าเราเชิญชวนพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค ซึ่งคาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าจะได้พูดคุยในประเด็นนี้
ส่วนกรณีมีการใส่ร้ายป้ายสีพรรคภูมิใจไทยอยู่เบื้องหลังการจัดตั้งม็อบนั้น โฆษกพรรคกล่าวว่า ตอนนี้เกือบ 77 จังหวัด ที่ประกาศจัดม็อบ เพราะฉะนั้นอย่าพยายามดูถูกพลังความรักชาติของประชาชนชาวไทย ที่เขาต้องการแสดงออก กับการไม่เห็นด้วยในการปฏิบัติตัวของนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นที่จะให้เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย เราปฏิเสธอย่างชัดเจนว่า ไม่จริงและไม่ใช่ เราพร้อมจะทำหน้าที่ ในรัฐสภาอย่างเต็มที่
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการกล่าวหาที่รุนแรงว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีทรัพย์สินอยู่ที่ประเทศกัมพูชา นางสาวแนน บุณย์ธิดา กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่มี เราได้พูดคุยกับทางสมาชิกและหัวหน้าพรรคแล้ว เราไม่เคยมีกิจการ ไม่เคยมีทรัพย์สินใดๆ อยู่ที่ประเทศกัมพูชา เราพร้อมให้ตรวจสอบ และขอเรียกร้อง ว่าท่านใดก็ตามแต่ที่ปล่อยข่าว รีบปล่อยออกมาเถอะว่าใคร ใครกันแน่ที่มีทรัพย์สิน เอาไปฝาก เอาไปซุก เอาไปซ่อนอยู่ที่นั่น การที่จะใช้โซเชียลมีเดียกล่าวหาคนนั้นคนนี้ต้องมีหลักฐาน ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า พรรคภูมิใจไทย เป็นคนปล่อยคลิป ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายฮุนเซน ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
"ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้พวกเราชาวไทยรู้สึกแบบไหน และไม่เห็นต้องแปลกใจเลยว่าคนปล่อยคลิปไม่ใช่เรา เพราะทุกท่านเห็นอยู่แล้วว่าใครกันแน่เป็นคนปล่อยคลิปกันแน่ อังเคิลของท่านนั่นแหละ เพราะฉะนั้นอย่าลากพรรคภูมิใจไทยไปเกี่ยว เรามีศักดิ์ศรีของเรา ถ้าเราหวงผลประโยชน์ เราคงไม่ลาออกทุกตำแหน่ง ขณะนี้หน้าที่ 69 สส.ของเรายังคงอยู่" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
ด้านนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวเสริมว่า ยืนยันด้วยว่า ไม่ว่าจะตนหรือครอบครัวของตนหรือที่หลายท่านเรียกว่าผู้นำทางจิตวิญญาณ คือนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย พ่อของตนเอง ไม่มีแน่นอน ใครที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่จะมีธุรกิจทรัพย์สินหรือผลประโยชน์แอบแฝงอยู่กับประเทศเพื่อนบ้าน ตรงนี้ยืนยัน และไม่ว่าจะมีการปล่อยคลิปปล่อยข่าวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร ยืนยันว่า พวกตนไม่มี เพราะฉะนั้นหากมีข่าวที่บอกเป็นอย่างอื่นได้เลย ตามสบายไม่ใช่ของพวกตนแน่นอน
เมื่อถามถึงการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคภูมิใจไทย นายไชยชนก กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์เป็นฝ่ายค้านเป็นศูนย์แต่ในการประชุมพรรค มีการแชร์ประสบการณ์ แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาลชีวิตเป็นอย่างไร ทำให้ตนได้คำตอบ ว่า วิธีการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ของพวกเรา ก็จะเป็นตัวเราเองแบบนี้ไม่ได้ดูต้นแบบจากคนอื่น ไม่ได้ดูว่าต้องทำแบบไหน แต่จะเป็นแบบนี้ด้วยความภาคภูมิใจ
“ปัจจุบันสถานการณ์หลายสิ่งหลายอย่างไม่แน่นอนดุเดือดขึ้นเรื่อยเรื่อยทั้งเรื่องการเมือง และปัญหาต่างๆของประเทศวันนี้สิ่งหนึ่งที่ดุเดือดขึ้นด้วยคือเวทีสงครามการสื่อสาร จึงอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า เวลานี้เป็นช่วงที่สำคัญที่ประเทศชาติต้องการสติของพวกท่านมากที่สุดในเวลานี้ อยากให้ทุกท่านประเมินข้อมูลทุกสถานการณ์อย่างรอบคอบไม่อยากให้มองแค่สิ่งที่ถูกพูด หรือประกาศแม้แต่กระทั่งพรรคตนเองแต่อยากให้ตัดสินใจจากการกระทำ ไม่ว่าจะรัฐบาลชุดใหม่รัฐบาลชุดเก่าหรือพรรคอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในรัฐบาลก็ตาม เวลานี้อยากให้พวกท่านตั้งใจดูตัดสินใจจากการกระทำ” นายไชยชนกกล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา