ศาลอาญาคดีทุจริตภาค 9 พิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา อดีตนายก อบต.กันตังใต้-ผอ.กองคลัง ทุจริตเบิกเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาท้องถิ่น 6 หมื่นบาท –ป.ป.ช.ตรังเผยพฤติการณ์ใช้เอกสารเท็จรับรอง แต่ไม่จ่ายเบี้ยเลี้ยง อดีตนายกฯ ไม่สามาถชี้แจงได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดตรัง โดยนายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิพากษาจำคุก 5 ปีไม่รอลงอาญากับนายกิตติ กันตังกุล อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกันตังใต้ และนางสาวบุญญดา เม่งอำพัน ผู้อำนวยการกองคลัง ซึ่งมีพฤติการณ์ทุจริตในการเบิกจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงโครงการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาท้องถิ่น “พระยารัษฎาเกมส์” ครั้งที่ 11 เป็นเงินทั้งสิ้น 62,640 บาท
นายยุทธนา แถลงข่าวถึงพฤติการณ์ของการกระทำความผิดระบุว่าจำเลยที่ 1 คือ นายกิตติ กันตังกุล อดีตนายก อบต.กันตังใต้ ส่วนจำเลยที่ 2 คือ นางสาวบุญญดา เม่งอำพัน ผู้อำนวยการกองคลัง ซึ่งเป็นคนยืมเงินในการจัดโครงการดังกล่าว ซึ่งรู้เห็นอยู่ในเหตุการณ์ว่ามีการรับรองเอกสารเป็นเท็จ ให้เซ็นอย่างเดียวแต่ไม่มีการเบี้ยจ้างค่าเบี้ยเลี้ยงให้กับทางนักกีฬา ส่วนทางนายกฯก็ไม่สามารถชี้แจงได้
การกระทำดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดอาญานายกิตติ ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจ ในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1
และชี้มูลความผิดนางสาวบุญญดา เม่งอำพัน ผู้อำนวยการกองคลัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ต่อมาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิจารณาแล้ว จึงฟังได้ว่า มีการเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาไปใช้จ่ายในการจัดชื้ออาหารและสิ่งของอย่างอื่นโดยไม่ได้นำไปจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้แก่นักกีฬาจริง พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 (เดิม) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
เฉพาะจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 อีกฐานหนึ่ง การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทและสำหรับจำเลยที่ 1 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 151 มีระวางโทษเท่ากัน ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
จำคุกคนละ 5 ปี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกับจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อท 88/2566 ชำระเงินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้เป็นเงิน 62,640 บาท แก่องค์การบริหารส่วนตำบลกันตังใต้ ผู้เสียหาย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
“ก็เป็นอุทาหรณ์ในการจัดโครงการต่างๆ ของ อปท.ที่มีการถัวจ่ายต่างๆ ไม่ตรงกับหมวดหมู่ในเรื่องของงบประมาณต่างๆ บางครั้งถ้าเกิดอธิบายได้ ชี้แจงได้ ก็จะเป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่หากชี้แจงไม่ได้เลยว่าเงินจำนวนดังกล่าว จำนวน 62,640 บาท นำไปจ่ายอะไรบ้างศาลก็มีคำพิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา” นายยุทธนากล่าว
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับคดีนี้ ป.ป.ช. ได้ออกมาเผยแพร่ มติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ต่อมาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง (ขณะนั้น) ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดตรัง ให้ นายกิตติ กันตังกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กันตังใต้ พ้นจากตำแหน่ง ภายหลังจากถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดแล้ว จนกระทั่งศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิพากษาคดี ในปี 2568 นี้ ซึ่งคดีดังกล่าวนี้ทาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเอง.