ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'ชัย บุญฤทธิ์' อดีตนายกอบต.นายาง อุตรดิตถ์ นำรถยนต์ราชการไปใช้ส่วนตัว-เบิกจ่ายค่าน้ำมันหลวง ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ไม่รอลงอาญาโทษคุก 144 เดือน ได้ยกเว้นปรับเงิน 60,000 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายชัย บุญฤทธิ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นายาง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ นำรถยนต์ราชการไปใช้ส่วนตัวและมีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันจากทางราชการ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6
จากเดิม
ที่พิพากษาว่า นายชัย บุญฤทธิ์ จำเลย มีความผิดตาม ป.อ. ม.157 (เดิม) จำคุกกระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 5,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชนแ์ก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตาม ป.อ. ม.78 กึ่งหนึ่งคงจำคุกกระทงละ 6 เดือน และปรับกระทงละ 2,500 บาท เป็นจำคุก 144 เดือน และปรับ 60,000 บาท
พิเคราะห์พฤติการณ์ในการกระทำความผิดของจำเลยแล้ว เห็นว่า ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ประกอบกับมีการนำเงินค่าเสียหายไปชำระให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลนายางเพื่อบรรเทาผลร้ายจนครบถ้วนแล้ว เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี เห็นควรให้รอการลงโทษจำคุก จำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี ตาม ป.อ. ม.56 หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. ม.29, 30
แก้เป็น
ไม่ลงโทษปรับ และไม่รอการลงโทษจำคุก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เห็นชอบตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) หารือไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ