
'ทนายชวภณ' ยื่นหนังสือร้อง 'สมศักดิ์' ตรวจสอบจริยธรรมหมอ ปมแชทไลน์แพทยสภาหลุด จ่อยื่น ป.ป.ช.เพิ่ม ด้าน 'ธนกฤต' รับเรื่องแทน ยันไม่ใช่กระบวนการดิสเครดิตแพทยสภา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 นายวงศกร ไชยศรีหา ผู้แทนนำส่งหนังสือร้องเรียนจาก นายชวภณ กมลคณาวุฒิ ทนายความ ร้องเรียนต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา เพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรมของคณะกรรมการแพทยสภา กรณีแชทไลน์แพทยสภาที่มีการชี้นำการลงมติแพทยสภาให้ลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่ให้การดูแลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาล(รพ.) ตำรวจ โดยมี นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข รับหนังสือดังกล่าว
นายวงศกร กล่าวว่า วันนี้เป็นผู้แทนมายื่นหนังสือร้องเรียนกรณีแชทไลน์ที่หลุดออกมา ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (4 มิถุนายน) ได้ไปยื่นแพทยสภามาแล้ว และจากนี้จะไปยื่นต่อที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป
ด้าน นายธนกฤต กล่าวว่า ต้องอ่านเนื้อหาก่อนว่า ทนายที่ยื่นมามีวัตถุประสงค์อะไร แต่เบื้องต้นให้ตรวจสอบจริยธรรมของคนที่มีการแชทไลน์ดังกล่าวว่า เป็นกรรมการแพทยสภาด้วยหรือไม่ และกรณีแชทไลน์ก็ต้องตรวจสอบความเหมาะสม ต้องดูทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องให้สภานายกพิเศษ เป็นผู้วินิจฉัยเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของแพทยสภาในการแสวงหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่า กรณีดังกล่าวเป็นแชทไลน์จริงหรือไม่ และอยู่ในกลุ่มของใคร
“ส่วนประเด็นว่า ผมได้รับข้อมูลจากใคร ผมมีตัวตนคนที่ให้ข้อมูล ส่วนคนที่ส่งข้อมูลให้ท่านทักษิณ ก็ต้องสอบถามท่านอีกที กระบวนการนี้เริ่มต้นจากอคติ การจะวินิจฉัยใครต้องไม่มีอคติ และส่งผลให้เป็นปัญหาในเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่ เพราะหากมุ่งจะทำให้เกิดความเสียหายก็จะไปต่อในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่มิชอบได้” นายธนกฤต กล่าว
ส่วนประเด็นว่าต้องตรวจสอบก่อนถึงวันที่ 13 มิ.ย.ที่ศาลฎีกานัดไต่สวนหรือไม่นั้น นายธนกฤต กล่าวว่า กระบวนการไม่เกี่ยว การวินิจฉัยก็ว่ากัน ไม่ได้นำเรื่องนี้มาเกี่ยวโยงกัน
นายธนกฤต กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีแชทไลน์หากเกี่ยวกับกรรมการแพทยสภา และมีข้อมูลว่าไม่เหมาะสม แสดงว่ามติแพทยสภาที่ผ่านมาจะต้องโมฆะหรือไม่นั้น ว่า อยากให้แยกส่วน เพราะเรื่องยังไม่ถึง และการลงมติเป็นเรื่องลงมติ แต่ประเด็นนี้เป็นเรื่องการตรวจสอบจริยธรรม อาจไม่เกี่ยวกับการลงมติก็ได้ ต้องดูว่าเป็นแพทย์คนใด หรือหากไม่ได้ ก็ไปใช้บริการตำรวจไซเบอร์ก็ได้ เช็กเส้นทางคนเกี่ยวข้องได้ ทางกระทรวงฯ อาจทำหนังสือถึงตำรวจไซเบอร์ ไม่ยากหรอก
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีคนมองว่า กระบวนการต่างๆ ในเรื่องแชทไลน์เป็นเรื่อง ดิสเครดิต นายธนกฤต กล่าวว่า ไม่ได้มองว่า ดิสเครดิต แต่ถามว่า ทำทำไม ไม่ชอบใจก็เก็บไว้ แต่เมื่อออกสู่สาธารณะ และกลุ่มแชทไลน์ก็เป็นกลุ่มที่มีอำนาจหน้าที่ มีส่วนได้เสียในการทำเรื่องนี้ จึงไม่ใช่ดิสเครดิต แต่เป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่ ยิ่งเป็นกลุ่มที่เป็นแพทย์ มีต้นทุนทางสังคมสูง ควรเป็นแบบอย่างที่ดี และยิ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงด้วย เป็นผู้นำองค์กรก็ยิ่งต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ก็ต้องจำเป็นบทเรียนว่า เรื่องนี้เอามาล้อเล่นไม่ได้
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องหลายกฎหมาย มีการเอ่ยชื่อบุคคลอื่น มีเอ่ยชื่อท่านทักษิณ ท่านรมว.สมศักดิ์ เทพสุทิน และเอ่ยชื่อผม ก็ต้องดูว่าใครเสียหายอย่างไรบ้าง” นายธนกฤตกล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา