
พนักงานสอบสวนคุมตัว อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง-หญิงนายหน้าเว็บพนัน ไปขออำนาจศาลฝากขัง คัดค้านประกันตัว บิ๊กเต่า ประสาน ปปง.-สตง. ร่วมตรวจสอบบัญชีการเงินวัดไร่ขิง เผย ทิดแย้ม ใจป๋า เดือนเดียวโอนเงินให้โบรกเกอร์สาวกว่า 80 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก อดีตพระธรรมวชิรานุวัตรหรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า ผู้ต้องหาที่ 1 และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ผู้ต้องหาที่ 2 คดีเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของบุคคลอื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่น เอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้ อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
โดยศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง มีกำหนด 12 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการยื่นขอฝากขังนายแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ศาลพิจารณารับคำร้องฝากขังแล้ว ส่วนนางสาวอรัญญาวรรณ อยู่ระหว่างการยื่นขอประกันตัวและฝ่าย นายแย้ม ไม่ได้ยื่นขอประกันแต่อย่างใด จึงถูกคุมตัวเข้าไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที
ต่อมา ศาลยกคำร้องขอยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของน.ส.อรัญญาวรรณ เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว พยานหลักฐานเป็นอิเล็กทรอนิกส์ หากได้ประกันตัวอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งน.ส.อรัญญาวรรณ ถูกฝากขังในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ฝ.2739/2568 ของศาลอาญาด้วย ซึ่งข้อหาดังกล่าวก็มีอัตราโทษสูงเช่นกัน หากคดีนี้ได้ประกันตัวเชื่อว่าผู้ต้องหาที่ 2 จะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมกับคุมตัวน.ส.อรัญญาวรรณ ไปยังทัณฑสถานหญิงกลางทันที


@ ประสาน ปปง.-สตง. ร่วมตรวจสอบบัญชีการเงินวัดไร่ขิง
ด้านพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดียักยอกเงินวัดไร่ขิงว่า ผลการสอบปากคำนายแย้มมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างประสาน เจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่น (สตง.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด และ บัญชีธนาคารส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสในอดีตทั้งหมดอย่างละเอียด เนื่องจากในแต่ละวันวัดจะมีรายได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเงินทำบุญ เงินบริจาคจากญาติโยม เงินรายได้จากการขายดอกไม้ธูปเทียน
ขณะที่ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดียักยอกเงินวัดไร่ขิงว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้นำตัวนายแย้ม พร้อม น.ส.อรัญญาวรรณ สองผู้ต้องหาส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมแนบหนังสือคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพบว่า นายแย้ม นั้นเคยมีพฤติกรรมยุ่งเหยิง หรือ ทำลายพยานหลักฐาน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจพิจารณาของศาลว่าพิจารณาเห็นควรอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่าง นายแย้ม กับ น.ส.อรัญญาวรรณ โดยรวม ทั้งจากการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง หรือ แบบอำพรางโดยการให้พระลูกวัดนำเงินสดไปฝากผ่านตู้รับฝากเงินอัตโนมัติ พบว่า นายแย้ม เริ่มโอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ มาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปี 2567 ยอดเงินที่โอนแต่ละครั้งมีตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงล้านบาท รวมประมาณกว่า 300 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อลงลึกในรายละเอียดยังพบว่าเฉพาะปี 2566 นายแย้ม เคยโอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ รวมกันมากถึง 80 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาเพียงแค่เดือนเดียว
นอกจากนี้จากแนวทางสืบสวน ยังพบว่า นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดไปให้ น.ส.อรัญญาวรรณ แล้วนั้น ยังพบว่า นายแย้ม เคยมีการเบิกถอนเงินวัดเข้าบัญชีส่วนตัว ก่อนโอนไปยังบุคคลใกล้ชิด ก่อนจะมีการนำไปรถหรูแล้วนำมาถวายนายแย้มใช้เป็นรถส่วนตัว อีกทั้งยังมีการตรวจสอบพบเส้นเงินปริศนาที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบโอนมาให้นายเอกพจน์ หรือ อดีตพระเอกพจน์ จำนวน 200 ล้านบาท และ คนใกล้ชิดนายแย้ม ซึ่งเป็นชายภายในวัดอีก 60 ล้านบาท อีกด้วย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา