ตร.เตรียมฝากขังอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง-หญิงนายหน้าเว็บพนัน 17 พค. คดียักยอกเงินวัด 300 ล้านเล่นเว็บพนัน บก.ป.เชิญอดีตจ่า ทร.-เมีย ให้ปากคำ หลังพบมีชื่อเป็นเจ้าของรถทุกคันในวัดไร่ขิง ขยายผลสอบเอี่ยวยักยอกหรือไม่ -ปปป.คุมตัวสอบเข้มอดีตพระมหาเอกพจน์ นำเงินจากอดีตเจ้าอาวาสฝากเข้าบัญชีหญิงนายหน้าเว็บพนัน หลัง ป.ป.ช.สนธิกำลัง ปปท.-ตำรวจเข้าค้นวัด 8 จุด-ผบ.ตร.สรุปคดี เผยเรื่องนี้ได้รับร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 67 -ด้านชุดสืบสวนเผยพฤติการณ์อดีตเจ้าอาวาสเคยยืมเงิน น.ส.อรัญญาวรรณ หญิงนายหน้าเว็บพนันลงทุนครั้งแรก 40 ล้านช่วงปี 64 ก่อนมีเงินโอนจากบัญชีวัดเข้าหญิงนายหน้าร่วม 31.4 ล้าน ส่วนทนายความ หญิงนายหน้ายืนยันเจ้าตัวไม่ใช่เจ้าของเว็บพนัน และไม่คิดว่าเงินโอนเข้าเป็นเงินวัด แต่เป็นเงินเก็บส่วนตัวเจ้าอาวาส
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวความคืบหน้าการดำเนินคดีดำเนินคดีกับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม หรือ "นายแย้ม" หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า ในข้อหาทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาทเพื่อเอาไปเล่นเว็บพนัน ว่า หลังจากช่วงเช้าวันที่ 16 พ.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายต่างๆในพื้นที่ จ.นครปฐม และ พื้นที่อื่นๆ หลายจุด เพื่อสืบค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว
ความคืบหน้าล่าสุดในคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ศูนย์รับเเจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัว นายแย้ม ผู้ต้องหาในคดียักยอกเงิน 300 ล้านบาท ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ชื้อ หรือ จัดการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบัง หรือ ทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน , เป็นเจ้าพนักงาปฏิบัติหรือละเว้นการปติหน้าที่โดยมิชอบ และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต” และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ นายหน้าเว็บพนัน ในความผิดฐาน "เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐาน เจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต" ไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในช่วงเช้าของวันที่ 17 พฤษภาคม เวลา 10.00 น.
@สอบเข้มอดีตพระเอกพจน์ ถือเงินจากเจ้าอาวาสโอนเข้าเว็บพนัน หลัง 3 ป.ค้นวัด 8 จุด
สำหรับความเคลื่อนไหวอื่นๆภายในวันนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสอบปากคำ เริ่มกันตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.เวลา 10.00น. เจ้าหน้าที่ ปปป.ได้ทำการคุมตัว นายเอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระคนสนิท ซึ่งเป็นคนที่นำเงินจาก อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ นายแย้ม ไปฝากตู้รับฝากเงินอัตโนมัติตามที่ต่างๆ เพื่อโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ มาสอบปากคำยังโรงเรียนนายร้อยสามพราน เพื่อสักถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยมี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เป็นคนสอบปากคำด้วยตนเอง
จากการสอบปากคำ นายเอกพจน์ ให้การว่า นายแย้ม เป็นคนให้ตนนำเงินฝากเข้าตู่รับฝากเงินอัตโนมัติ เพื่อโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส.อรัญญาวรรณ เพื่อเล่นพนันออนไลน์จริง
อนึ่งการคุมตัวนายเอกพจน์มาสอบปากคำที่ ปปป.เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ภาค 7 นำโดยนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ พร้อมด้วย นายพายัพ คชพลายุกต์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครปฐม นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 เจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนฯ 2 สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สนธิกำลังร่วมปฏิบัติการตรวจค้นวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยการตรวจค้นเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 07.00 น.
สืบเนื่องจากกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนคดีกล่าวหาเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในข้อหาหรือฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่หรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังเอาทรัพย์ไปโดยทุจริตฯ และมีมติส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินคดีตาม ป.วิ.อาญา และต่อมาพนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ท. ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนนำไปสู่การยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขออนุมัติหมายจับหมายค้น และศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้อนุมัติหมายจับและหมายค้นเลขที่ ค.32/2568 ให้ค้นวัดไร่ขิง เลขที่ 52 ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
ความผิดฐาน "เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 147 ,157 ,86
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ สำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้สนธิกำลังร่วมกันทำการตรวจค้นเพื่อหาพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี ทั้งหมด จำนวน 8 จุด แยกเป็นที่บริเวณวัดไร่ขิง จำนวน 3 จุด และบริเวณนอกวัดไร่ขิง จำนวน 5 จุด ซึ่งในการตรวจค้นที่วัดไร่ขิง มีพระครูปฐมธีรวัฒน์ ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้นำตรวจค้นภายในวัดทั้งหมด 3 จุด เบื้องต้นพบพยานหลักฐานเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสลิปการโอนเงินไปยังบัญชีนางสาวอรัญญาวรรณ เป็นจำนวนมาก ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดพยานหลักฐานไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะตรวจสอบบัญชีธนาคารของวัดไร่ขิงฯ เพื่อดำเนินการต่อไป
@สอบอดีตจ่า ทร.เมีย-มีชื่อถือครองรถทุกคันในวัด
ต่อมาในช่วงเวลา 13.45 น.เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. ได้ทำการเชิญตัว พันจ่าเอกฉัตรชัย อดีตเจ้าหน้าที่ทหารเรือ และ ภรรยา คนสนิทอดีตนายแย้ม จากบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัสสาขานครปฐม มาทำการสอบปากคำที่โรงเรียนนายร้อยสามพราน จ.นครปฐม เพื่อสักถามข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัดด้วยหรือไม่ หลังพบว่า รถยนต์ของวัดเกือบทุกคัน มีชื่อของ พันจ่าเอกฉัตรชัย เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์
อย่างไรก็ตามการเชิญตัวพันจ่าเอกฉัตรชัย และ ภรรยา มาสอบปากคำในครั้งนี้ เป็นเชิญตัวมาให้ปากคำในฐานะพยาน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเพียงเท่านั้น ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
@พระปลัดศานิตย์เชื่ออดีตเจ้าอาวาสบริสุทธิ์ ย้ำสถานะยังเป็นพระ เพราะกล่าวคำลาสิกขาไม่ครบ
ในช่วงบ่ายที่กองบัญการตำรวจสอบสวนกลางเช่นเดียวกัน พระปลัดศานิตย์ นิจฺจงฺคุโณ (นิด-จัง-คุ-โน) ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายแย้ม ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหาด้านใน
หลังจากเข้าเยี่ยมประมาณ 10 นาที พระรูปดังกล่าวก็ได้เดินทางกลับทันที ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าได้เดินทางมาทำอะไร พระปลัด ศานิตย์ จึงเปิดเผยว่า ที่เดินทางมาในวันนี้ ตั้งใจจะมาเยี่ยมนายแย้ม และให้กำลังใจในการต่อสู้คดี ซึ่งจากการได้เข้าไปเยี่ยม ก็เห็นท่าทีของนายแย้ม ไม่ได้ดูเครียดอะไรมากมาย ดูเหมือนว่ามีกำลังใจดีที่จะต่อสู้คดีที่เกิดขึ้น
ส่วนคดีที่เกิดขึ้นที่มีการยักยอกเงินวัดไปเล่นการพนันนั้น ตนเองก็ไม่ทราบว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แม้แต่พระในวัดไร่ขิงเองก็ไม่มีใครทราบว่ามีการนำเงินไปเล่นการพนัน รวมถึงเงินในบัญชีของวัดไร่ขิง พระลูกวัดก็ไม่มีใครทราบเลยว่าใครที่จะมีอำนาจในการเบิกถอนเงิน แต่โดยหลักก็ต้องมีคณะกรรมการเข้ามาเกี่ยวข้องในการเบิกถอนเงินของวัด แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนเองไม่ทราบจริงๆ ว่าการเบิกถอนเงินออกมานั้นมีการทำผ่านใครบ้าง
นอกจากนี้ พระปลัดยังได้ขอความเป็นธรรมให้กับนายแย้ม โดยบอกว่าในตอนนี้ตัวของนายแย้ม ยังคงครองสมณเพศสงฆ์ แต่ที่ถอดผ้าเหลืองออกคาดว่าเป็นการถูกกดดันให้สึก ซึ่งเมื่อวานนี้(15 พ.ค.) ก็ได้สึกต่อหน้าพระพุทธรูป แต่ทราบว่าตัวของนายแย้ม ท่องบทสวดไม่ครบ จึงถือว่าไม่ได้มีการสึกจากการเป็นพระ เนื่องจากเขาไม่ได้มีความตั้งใจที่จะสึกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อหรือไม่ว่าตัวของนายแย้ม ได้มีการยักยอกเงินวัดไปเล่นการพนัน พระปลัด บอกว่า หากถามความคิดเห็นส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่านายแย้ม จะนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ เพราะเชื่อว่าทุกวันที่ผ่านมานายแย้มทำแต่กิจของสงฆ์ ไม่ว่างที่จะเอาเวลามานั่งปั่นบาคาร่า ส่วนจะมีใครช่วยปั่นหรือไม่นั้นตนเองก็ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเลย
@ผบ.ตร.แจงสอบขยายผลปลายทางบัญชี
ขณะที่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนตั้งแต่ปี 2567 และได้รวบรวมข้อมูลพร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด พบว่ามีการกระทำความผิดในฐานะเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์จริง ส่งผลให้ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยในทางคดี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งตั้งคณะทำงานพิเศษ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้ควบคุมการสอบสวน ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากในประเด็นของการนำเงินของวัดไปมอบให้ผู้อื่น
จากการสอบสวนพบว่า เงินของวัดได้ถูกนำออกจากบัญชีและส่งต่อไปยังบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ซึ่งการให้ปากคำของพยานต่อคณะกรรมการสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก ส่วนประเด็นว่าเป็นการขูดรีดหรือบังคับให้พระสงฆ์โอนเงินหรือไม่นั้น ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนในเบื้องต้น ก่อนจะขยายผลไปยังผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดร่วมต่อไป
คดีนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลักที่มีองค์ประกอบความผิดแตกต่างกัน ประเด็นแรกคือการนำเงินของวัดมาใส่ในบัญชีส่วนตัว และประเด็นที่สองคือการนำเงินออกจากบัญชีส่วนตัวไปยังบัญชีใด ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์ทราบต่อไป
ผบ.ตร. เน้นย้ำว่า คดีดังกล่าวเป็นเรื่องของการกระทำความผิดส่วนบุคคล และไม่ต้องการให้สังคมมองว่าเป็นความเสื่อมเสียของวงการศาสนา โดยขอให้แยกแยะว่าผู้กระทำผิดเป็นบุคคลในสายอาชีพใด หากมีผู้กระทำผิด ก็ไม่ควรนำไปเชื่อมโยงกับภาพรวมของอาชีพนั้นๆ การกระทำความผิดของพระสงฆ์ก็ไม่เกี่ยวข้องกับวงการศาสนาโดยรวม และไม่ต้องการให้นำเรื่องอื่นมาเกี่ยวพัน
@เผยข้อมูลเว็บพนัน LAGALAXY911 พบหญิงนายหน้าทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชี ดูแลเส้นเงิน
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับเว็บพนันที่มีข่าวว่านายแย้มได้นำเงินลงไปเล่นนั้นได้แก่เว็บ “LAGALAXY911” เคยถูกตำรวจบช.สอท.จับกุมตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 โดยครั้งนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผบก.อก.บช.สอท.พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 24 ราย ประกอบด้วย ผู้ดูแลการเงิน,โปรแกรมเมอร์, พนักงานดูแลบัญชีธนาคารรับโอน-ถอน และบัญชีม้ารับโอนเงิน ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.ชลบุรี และ จ.นครปฐม จับกุมผู้ร่วมเครือข่าย 12 ราย ในจำนวนนี้มีน.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งทำหน้าที่เจ้าของบัญชีธนาคารและดูแลเส้นทางการเงิน ได้ที่บ้านหมู่บ้านดัง ต.ไร่ขิง อ.สามพราม จ.นครปฐม ก่อนที่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ได้ขยายผลจับ 2 ผู้ต้องหา ซี่งเป็นสมาชิกแก๊งรถซิ่งชื่อดัง “นารากะ” ทำหน้าที่ยิงแอดโฆษณาและบริหารการเงินของเว็บ
โดยจากการสืบสวนพบเว็บพนันเครือข่ายดังกล่าว ได้จดทะเบียนนิติบุคคลในรูปแบบบริษัทเพื่อทำการฟอกเงิน จำนวน 3 บริษัท และยังพบว่าบริษัทตั้งอยู่ในชุมชนแออัด และกรรมการบริษัทก็เป็นบุคคลที่อาศัยอยู่ในชุมชน ซึ่งจากการสันนิษฐานคาดว่า อาจถูกหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวมาจดทะเบียนนิติบุคคลดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบทั้ง 3 บริษัทนั้น พบข้อมูลว่า ตั้งแต่ เม.ย.-ก.ค.67 บริษัท ก. มีเงินหมุนเวียนประมาณ 250 ล้านบาท และบริษัท ข. มีเงินหมุนเวียนประมาณ 200 ล้านบาท และตั้งแต่ พ.ค.-ก.ย.67 บริษัท ค. มีเงินหมุนเวียนประมาณ 362 ล้านบาท รวมทั้ง 3 บริษัท พบเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า 800 ล้านบาท
ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนพบว่า น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ นอกจากจะเป็นนายหน้าเว็บพนันออนไลน์แล้วนั้น ยังทำหน้าที่ซึ่งเป็นบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บพนัน จากข้อมูลพบว่าบัญชีของน.ส.อรัญญาวรรณ เป็นบัญชีแถวที่3 ในการรับผลประโยชน์ โดยรับโอนเงินจากนิติบุคคลรายหนึ่ง(บริษัท กราฟ เวิลด์ จำกัด) ซึ่งเชื่อว่าเป็นบัญชีแถวที่สองและเป็นบัญชีพักเงินตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 จำนวน 37 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 48,790,225 บาท
จากนั้นได้โอนเงินกลับไปยังบัญชีนิติบุคคลดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 จำนวน 85 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 97,056,000 บาท และยังโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารอื่นของตนเอง น่าเชื่อว่าเป็นบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บไซต์พนันออนไลน์ จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นจำนวนเงิน 480,000 บาท
นอกจากนี้ยังพบว่ามีนิติบุคคลอีก 2 บริษัท (บริษัท ลักกี้เวิลด์56 จำกัด และบริษัท ซีเอ็มดี เซอร์วิส1889 จำกัด) โอนเงินเข้าบัญชีน.ส.อรัญญาวรรณ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2567 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2567 จำนวน 15 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 8,467,988.00 บาท และตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 19 กันยายน 2567 จำนวน 27 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 40,064,241.00 บาท
ในส่วนกรณีนายแย้ม ชุดสืบสวนพบความสัมพันธ์จากการที่นายหน้าสาวให้การรับสารภาพว่ารู้จัก อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ตั้งแต่สมัยเรียนวัดไร่ขิง ลองยืมเงินครั้งแรก 40 ล้านบาทเพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 หลังจากนั้นก็เริ่มโทรขอคำปรึกษาทุกๆ เรื่องเรื่อยมา ระหว่างนั้นจะใช้วิธีวิดีโอคอลพูดคุยกันมาตลอด รวมทั้งยังพบคลิปวิดีโอของสีกาคนสนิท ขณะอาบน้ำในโทรศัพท์อดีตเจ้าคุณแย้มด้วย
สอดรับกับข้อมูลที่ชุดสืบสวนได้แกะรอยพบเส้นเงินที่มีความเชื่อมโยงระหว่างอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงกับน.ส.อรัญญาวรรณ ผ่านการที่ให้พระมหาเอกพจน์ ภูมัง พระลูกวัดไร่ขิง นำเงินไปฝากที่ตู้รับฝากเงินอัตโนมัติตามที่ต่างๆอาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาวัดไร่ขิง,ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาเซียร์รังสิต,ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาเซ็นทรัลศาลายา,ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาลำลูกกา,ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาเดอะมอลล์บางแค,ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาอ้อมใหญ่ เข้าบัญชีน.ส.อรัญญาวรรณ จำนวนหลายครั้ง เป็นเงิน31,400,000 บาท
อย่างไรก็ตามพฤติการณ์การกระทำของพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง มีเหตุอันควรน่าเชื่อว่า เป็นการฝากรับฝาก หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือเพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มา ลักษณะเป็นการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่ได้รับจากการประกอบอาชีพปกติ เป็นการปกปิดที่มาของเงิน เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจพบที่มาหรือต้นทางของเงินที่ได้นำเข้าบัญชีธนาคาร น่าเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง หรือนายเอกพจน์ ภูฆัง ตามหมายจับที่604/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค. ในความผิดร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออีเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐามผิดฐาน ฟอกเงินเพราะเหตที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน" ซึ่งปัจจุบันพระมหาเอกพจน์ ได้ทำการสึก และหลบหนีการจับกุมตั้งแต่น.ส.อรัญญาถูกจับกุมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
@ทนายความยัน 'อรัญญาวรรณ' ไม่ได้เป็นเจ้าของเว็บพนัน ส่วนอดีตเจ้าอาวาสโอนเงินมาใช้หนี้
ขณะที่นายอนิสร รุ่งเรือง ทนายความของ น.ส.อรัญญาวรรณ นายหน้าเว็บพนันออนไลน์ให้นายแย้ม ได้เดินทางเข้ามาเยี่ยม น.ส.อรัญญาวรรณ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนจะออกมา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กล่าวว่าหลังจากได้มีการพูดคุยกับน.ส.อรัญญาวรรณ และได้ร่วมฟังการสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า ตัวของ น.ส.อรัญญาวรรณ ไม่ทราบว่าเงินที่ทางนายแย้ม โอนมาให้เป็นเงินของวัด เพราะคิดว่าเงินจำนวนนี้เป็นเงินส่วนตัวของนายแย้ม เนื่องจากอีกฝั่งเองบวชมาแล้วหลายพรรษา รวมถึงในอดีตก็เคยให้ด้วยความเสน่หา
แต่พอหลังจากให้โดยเสน่หา ก็เริ่มมีการทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้เพื่อให้มีการทยอยจ่ายหนี้ นอกจากนี้ทางน.ส.อรัญญาวรรณ ไม่ได้เป็นเจ้าของเว็บพนัน และตัวของนายแย้ม เองก็ไม่ได้โอนเงินเข้ามาเพื่อเล่นการพนันกับน.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งเงินที่ยืมมาจากนายแย้ม ตัวของน.ส.อรัญญาวรรณ ก็ยืนยันว่าไม่ได้นำไปเล่นการพนันจนหมด เพราะส่วนใหญ่เงินที่ยืมจะนำไปลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ จะมีเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบบางครั้งที่นำไปลงกับการพนัน
สำหรับตัวเลขเงินยืมทั้งหมดในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากว่าในบัญชีของน.ส.อรัญญาวรรณ มีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก และในบางครั้งก็มีการทยอยใช้หนี้ไปแล้วด้วยบางส่วน หลังจากที่ได้กำไรจากการลงทุน
เมื่อถามว่าตัวของน.ส.อรัญญาวรรณ ว่าไม่รู้จริงๆ ใช่หรือไม่ว่าเงินที่นายแย้ม ได้โอนเข้ามาให้ เป็นเงินของวัด ทางทนายความ ยืนยันคำพูดของน.ส.อรัญญาวรรณ ว่า ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินของทางวัด เพราะคิดว่าเป็นเงินส่วนตัวที่นายแย้ม ได้เก็บสะสมเอาไว้ อีกทั้งที่กล้าขอยืมและกล้ารับเงินเนื่องจากคิดว่าพระก็คือบุคคลธรรมดาคนหนึ่งที่มีเงินเก็บ ที่สำคัญตัวของน.ส.อรัญญาวรรณ ก็ไม่ได้เจตนาที่จะยืมมาเล่นการพนัน แต่เป็นการนำมาลงทุนมากกว่า
ส่วนเรื่องจำนวนเงินที่นายแย้ม ได้โอนเข้าไปเล่นการพนันออนไลน์ ตัวของน.ส.อรัญญาวรรณ ไม่ทราบเลยว่าได้มีการโอนเงินไปเล่น มาทราบข่าวก็ตอนที่ได้มีการจับกุมไปแล้ว สำหรับประเด็นเรื่องคลิปที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นคลิปที่ไม่เหมาะสมระหว่างนายแย้ม และน.ส.อรัญญาวรรณ ส่วนตัวยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นการถ่ายเล่น หรือว่าเป็นการเชิญชวนอะไรหรือไม่ คาดว่าคลิปนี้น่าจะยังอยู่ที่พนักงานสอบสวน ส่วนความสัมพันธ์ของทั้งนายแย้ม และน.ส.อรัญญาวรรณ เป็นเชิงชู้สาวหรือไม่ตนเองยังไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้