
ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 8 พิพากษาจำคุก 136 ปี 408 เดือน แต่ติดจริง 50 ปี พร้อมให้ชดใช้เงินคืนเต็มจำนวน-อดีต จนท.การเงิน รพ.สุราษฎร์ธานี ยักยอกเงิน 887,704.24 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 30 เม.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้จัดแถลงข่าวที่โรงแรม เลอ เอราวัณ อ.เมือง จ.พังงา โดยนายทวิชาติ นิลกาญจน์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 9 นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 8 นายเนติพล ชุมยวง ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฏร์ธานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินงานของ ป.ป.ช.ภาค 8 และ ภาค 9 กรณีที่ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 8 ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2568 พิพากษาจำคุกนางสาวโสภิตา ทองแกมแก้ว อดีตเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ตำบลมะขามเตี้ย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่ายักยอกเงินค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จำนวน 887,704.74 บาท และจัดทำเอกสารรายงานการรับเงินค่ารักษาพยาบาลประจำวันเท็จ
โดยคดีนี้ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 151 , 157 , 162 พรป. ป.ป.ช. 172 และได้ส่งอัยการสูงสุด ฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 8
และต่อมาวันที่ 1 เม.ย. ศาลฯได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด พิพากษาจำคุกนางสาวโสภิตา กระทงละ 5 ปี รวม 68 กระทง จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้น 136 ปี 408 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุก 50 ปี ตามมาตรา 91 (3) ป.อาญา และให้จำเลยคืนเงินจำนวน 887,704.74 บาท ให้แก่โรงพยาบาลสุราษฏร์ธานีด้วย
อนึ่งในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) ระบุเนื้อหาเกี่ยวกับการจำคุกจากความผิดหลายกระทงเอาไว้ว่า เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แต่ไม่ว่าจะมีการเพิ่มโทษ ลดโทษ หรือลดมาตราส่วนโทษด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว โทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกินกำหนดดังต่อไปนี้
(3) จำคุกห้าสิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสิบปีขึ้นไป เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา