
ฮิวแมนไรท์วอทช์ออกแถลงการณ์ข้อกังวลปัญหาสิทธิมนุษยชน เหตุนายกรัฐมนตรีแพทองธารพบฮุน มาเนต จี้นายกฯไทยหยุดกีดกันสิทธิมนุษยชนขณะแสวงหาความร่วมมือกัมพูชา หลังฮุน มาเนตขอบคุณไทยห้ามฝ่ายตรงข้าม รบ.กัมพูชาเคลื่อนไหวในประเทศ ชี้รัฐบาลสองชาติมีพฤติการณ์ช่วยเหลือบังคับฝ่ายเห็นต่างให้สูญหายร่วมกัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าความเคลื่อนไหวจากองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยพบปะกับ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสที่ทั้งสองประเทศครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 75 ปี โดยองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์หรือ HRW ได้ออกแถลงการณ์ลงนามโดยนางเอเลน เพียร์สัน ผู้อำนวยการ HRW ประจำเอเชีย ระบุถึงข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนที่โดดเด่นกับผู้นํากัมพูชา
"ไทยไม่ควรกีดกันสิทธิมนุษยชนในขณะที่พยายามขยายความร่วมมือกับกัมพูชา" นางเพียร์สันกล่าวและกล่าวอีกว่านายกรัฐมนตรีแพทองธารควรกดดันให้หุ้นส่วนอย่างกัมพูชายุติการละเมิดสิทธิข้ามพรมแดนทำให้ทั้งสองประเทศเสียชื่อเสียง
HRW กล่าวว่ารัฐบาลทั้งสองมีส่วนร่วมในการปราบปรามข้ามชาติ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะปิดปากผู้เห็นต่างด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อพลเมืองของตนในต่างประเทศ การกระทํานี้เกิดขึ้นผ่านการจัดการซึ่งกันและกันโดยกําหนดเป้าหมายไปยังผู้เห็นต่างที่เรียกว่า "ตลาดแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน"
“รัฐบาลทั้งสองได้อํานวยความสะดวกในการโจมตี การลักพาตัว การบังคับให้สูญหาย และการบังคับให้ผู้คนกลับประเทศบ้านเกิดของตนซึ่งชีวิตหรือเสรีภาพของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง” HRW ระบุ
HRW ยกตัวอย่างกรณีการสังหารนายลิม คิยา ชาวกัมพูชาสัญชาติฝรั่งเศส และะอดีตสมาชิกรัฐสภากัมพูชาจากพรรคกัมพูชากู้ชาติ (CNRP) ที่ถูกสังหารในกรุงเทพ เมื่อวันที่ 7 มกราคม
กรณีนี้ศาลอาญากรุงเทพได้ออกหมายจับชาวกัมพูชาสองคนได้แก่ นายพิช กิมสริน และ นายลี รัตนรัศมี หรือชื่อในประเทศไทย คือ นายสมหวัง บำรุงกิจ ซึ่งทั้งสองเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและยังคงหลบหนีอยู่
HRW ระบุต่อไปว่าส่วนทางการไทยก็ยังคงใช้ข้อหาเกี่ยวข้องกับการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งพิสูจน์ได้ถึงการเนรเทศผู้เห็นต่างและนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชาอย่างผิดกฎหมายโดยไม่มีหลักเกณฑ์ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนักเคลื่อนไหวต่างชาติที่ถูกทางการไทยเนรเทศนั้นรวมไปถึงผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ลี้ภัยโดยข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)
กรณีสําคัญ ได้แก่ การบังคับให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชาสองคนที่เชื่อมโยงกับพรรค CNRP ถูกส่งตัวในกลับปี 2564 ทําให้พวกเขาถูกตั้งข้อหาและการกดขี่ข่มเหงทางการเมืองในกัมพูชา รวมถึงการเนรเทศชาวกัมพูชา 6 คนในปี 2567 ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ทางการกัมพูชาไม่ได้ดําเนินการสอบสวนอย่างละเอียดเกี่ยวกับการลักพาตัวนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวชาวไทยเมื่อเดือน มิ.ย.2563
“กรุงเทพฯ และพนมเปญจําเป็นต้องยุติการกดขี่ข่มเหงข้ามชาติต่อนักวิจารณ์และบุคคลฝ่ายค้านทางการเมืองทันที และนายกรัฐมนตรีแพทองธารควรใช้การเยือนกรุงพนมเปญเพื่อเริ่มต้นบทใหม่ของความร่วมมือบนพื้นฐานของการเคารพสิทธิมนุษยชน” นางเพียร์สันกล่าว
อนึ่งแถลงการ์ข้อกังวลของ HRW เกิดขึ้นหลังจากที่ พล.อ.ฮุน มาเนตกล่าวในการแถลงการณ์ร่วมตอนหนึ่งระบุว่าเขาขอขอบคุณฝั่งไทยที่ป้องกันไม่ให้กลุ่มต่อต้านใช้ไทยเพื่อแทรกแซงกัมพูชาและทำให้เกิดความเสี่ยงต่อประเทศ และในทางกลับกันเขาได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มใดใช้ดินแดนกัมพูชาสร้างปัญหาให้กับไทย
เรียบเรียงจาก:https://www.cambodianess.com/article/rights-group-urges-cambodia-thailand-to-tackle-cross-border-abuses

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา